[บทความ] Yuusha Series - Brave Police J-Decker - เปิดตำนานของผู้กล้า - Yuusha Keisatsu J-Decker -

กว่าจะได้เริ่มบทความชิ้นนี้ ก็นั่งคิดอยู่นานว่า จะย้อนกลับไปเขียนเอ็กซ์ไคเซอร์ หรือไฟร์เบิร์ด แต่ก็ยืนยันใจด้วยความหนักแน่นเช่นเดิมว่า ไฟร์เบิร์ด เรายังดูไม่จบนะ อย่าพึ่งเขียนดีกว่า เขียนเรื่องที่เราดูจบชัวร์ๆก่อนดีที่สุด อะไรๆมันจะได้ลงตัวทุกอย่าง และด้วยเหตุนี้เอง เปิดตำนานยูฉะ Vol.3 นี้จึงได้ลงล็อก ยูฉะซีรี่ย์ที่มีเนื้อหาน่าสนใจเรื่องหนึ่งนั่นคือ Brave Police J-Decker ครับผม และผมกล้ารับรองเลยว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความชิ้นนี้ของผม รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนหากทุกท่านหวังจะได้เหล่าหุ่นผู้กล้าที่มีหัวใจ และจิตวิญญาณที่เป็นมนุษย์มากกว่าทุกๆเรื่อง

Yuusha Keisatsu J-Decker เป็นซีรี่ย์หุ่นยนต์ผู้กล้าลำดับที่ 5 ต่อจากไมท์ไกน์ โดยเริ่มแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ อาซาฮี ทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 น. – 17.30 น. โดยออกอากาศตอนละประมาณ 30 นาที เริ่มฉายตอนที่ 1 ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1994 (พ.ศ. 2537) และจบซีรี่ย์ไปในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1995 ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 48 ตอนจบ เป็นที่น่าเสียดายที่ยูฉะซีรี่ย์นี้ ประเทศไทย ไม่ได้ License มาออกอากาศหรือจำหน่ายเป็น VCD , DVD ในเมืองไทย

Posted Image

Staff
Director : Shinji Takamatsu
Music : Yasunori Iwasaki
Series Composition : Hiroyuki Kawasaki
Character Design : Atuko Ishida
Mechanical Design : Kunio Okawara
Mecha Animation Design: Masahiro Yamane
Broadcaster : Nagoya Broadcasting Network
Production : Sunrise


Posted Image

Main Story
ปี 2020 หรือในช่วง ศตวรรษที่ 21 เกิดการโจมตีร้ายแรงในเมืองโตเกียวจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่อาศัยเทคโนโลยี ที่ก้าวหน้า ในการเพาะพันธุ์อาวุธชีวภาพร้ายแรง ในรูปแบบของสัตว์ชีวะ และ หุ่นยนต์สำหรับการก่อการร้าย
ด้วยเหตุนี้เอง MPD ซึ่งเป็นกรมตำรวจพิเศษของเมือง จึงได้เริ่มต้นโครงการ Brave Police Project ขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการก่อการร้ายที่พัฒนารูปแบบมากขึ้น โดยอาศัยหัวใจหลักในการต่อสู้ครั้งนี้ก็คือ หน่วยหุ่นยนต์ที่สังกัดกรมตำรวจ MPD ซึ่งเหล่าหุ่นยนต์เหล่านี้ ได้รับการติดตั้งระบบสมองกล (AI) ทำให้พวกเขาสามารถเคลื่อนไหว และตัดสินใจอะไรได้เองตามอิสระ อีกทั้ง ยังได้ติดตั้งหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ เข้าไปในร่างกายเป็นที่เหล็กกล้าของพวกเขาอีกด้วย

นำทีมโดย “โทโมะนากะ ยูตะ” นายตำรวจดาวรุ่งที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเขาต้องเป็นหัวหน้าในการนำทีมเหล่าหุ่นยนต์ที่ผู้คนเรียกขานนามพวกเขาว่า “Brave Police” หรือ มือปราบผู้กล้า ที่ซึ่งบรรจุหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ และทักษะการต่อสู้อันยอดเยี่ยมไว้ อย่าง Deckerd , Build Team ทั้ง 4 คน , Gun Max , Shadow Maru และน้องใหม่จากสหราชอาณาจักรอย่าง Duke

Concept of the Work
จัดว่าเป็นเรื่องที่ 2 แล้วที่หุ่นตัวเอกของเรื่อง แปลงร่างมาจากรถตำรวจ หลังจากเคยใช้กับดาการ์นมาแล้ว จริงๆทาง sunrise เริ่มทำความรู้จักกับการนำเอารถตำรวจที่ถือว่าเป็นพาหนะยอดนิยมที่คนส่วน ใหญ่ชอบดูเวลาที่มีเสียงไซเรน แล้วรถตำรวจวิ่งผ่านเพื่อปฏิบัติภารกิจ ตั้งครั้งที่นำมาใช้กับ ไฟร์เบิร์ด โดยผู้กล้ากลุ่มการ์ดทีม ที่ชื่อ การ์ดสตาร์ ก็แปลงร่างมาจากรถตำรวจ หรือผู้กล้าก่อนหน้านี้อย่างในไมท์ไกน์ ผู้กล้ากลุ่มไดเวอร์สอย่าง โพลิศไดเวอร์ ก็แปลงร่างมาจากรถตำรวจเช่นกัน

Posted Image

อีกทั้ง ทางสต๊าฟที่สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ยังได้หยิบเอาแนวเรื่อง การดำเนินเรื่องจากภาพยนตร์หรือซีรี่ย์แนวสืบสวนสอบสวนในช่วงยุค 80 มาสร้างให้เป็นอนิเมะหุ่นยนต์ตำรวจเรื่องนี้ ซึ่งดูเหมือนจะได้อิทธิพลมาตั้งแต่เริ่มฉายเพลง Title นี่ใช้ข้อความแนะนำชื่อตัวละครและหยุดภาพเคลื่อนไหวเป็นภาพนิ่ง ซึ่งยูฉะซีรี่ย์เรื่องก่อนๆ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

จุดที่แปลกใหม่อีกจุดคือ ทีมงานได้อาศัยเทคนิก CG เข้าไปเสริมด้วยในช่วงที่เบรกพักเรื่องเพื่อตัดเข้าโฆษณา จะเห็นได้ว่า ในช่วงนั้นกระแสการเล่น วิดีโอเกม เริ่มบูมมากขึ้น ทางสต๊าฟเลยได้เพิ่มเทคนิกนี้เข้าไปให้ตัวหนังดุน่าสนใจยิ่งขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือ ความสำเร็จจากการที่ผู้กล้าเรื่องก่อนหน้านี้อย่าง ไมท์ไกน์ ที่เหล่าผู้กล้าสามารถเคลื่อนไหวได้ตามความคิดของตัวเอง ซึ่งเกิดจากการบรรจุสมองกล AI เข้าไป แต่ใน Brave Police J-Decker ทีมงานได้สร้างให้เหล่าผู้กล้า มีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น มีความรู้สึกที่เรียกว่า รัก ผูกพัน เสียใจ เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง จึงทำให้แฟนๆรู้จักซีรี่ย์นี้ว่า ผู้กล้าในเรื่องเป็นหุ่นยนต์ที่เหมือนมนุษย์ และเป็นยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก

Main Characters

Posted Image

-ฝ่ายประชาชน



TOMONAGA YUUTA (พากษ์โดย Ishikawa Hiromi)

Posted Image

ตัวเอกของเรื่อง เรียนอยู่ชั้น ป.4 ได้ชื่อว่าเป็นนายตำรวจที่อายุน้อยที่สุด เป็นหัวหน้าทีม Brave Police ซึ่งเขาได้เข้ามาเป็นผู้บังคับการให้กับเหล่าผู้กล้านั้น เพราะการทาบทามด้วยตัวเองของสารวัตรเซย์จิม่า มีพี่สาวอีก 2 คน ในอดีต ยูตะเคยไปเล่นเครื่องบินบังคับที่ชายป่าแห่งหนึ่ง และเมื่อเขาพยายามลุยดงหญ้าเข้าไปเก็บเครื่องบินบังคับ เขาก็พลัดตกลงไปในท่อลม จนเขาตกลงในโรงงานใต้ดินแห่งหนึ่ง และตัวเขาเองก็เผลอไปกระแทกกับ แผงควบคุมในนั้น จนทำให้เป็นการปลุกหุ่นรูปทรงมนุษย์ตัวหนึ่ง ที่สร้างขึ้นไว้นานแล้วขึ้นมา หุ่นยนต์ตัวดังกล่าว ยังไม่ได้รับการประกอบชิ้นส่วนเกราะภายนอก แต่เขาก็เริ่มพูดแนะนำตัวว่า “ชั้นคือเดกการ์ด” ยูตะเห็นดังนั้น จึงพยายามสอนหุ่นตัวนี้ทุกอย่างตั้งแต่คำพูดคำจา การเดิน ลักษณะท่าทางต่างๆจนยูตะกับเดกการ์ด มีความผูกพันกันเหมือนเพื่อนรัก หรือพี่น้องเลยทีเดียว

ในตอนที่ 1 หลังจากที่เดกการ์ดได้กล่าวอำลายูตะเพราะจะต้องโดนปิดระบบ AI เพื่อจะนำไปโชว์ตัวให้ประชาชนได้เห็นถึงเทคโนโลยีระบบ AI ที่ทางกรมตำรวจสร้างขึ้นและบรรจุเข้าในตัวหุ่นยนต์อย่างเขา ในช่วงที่กำลังลำเลียงอยู่ในรถเทรลเลอร์กลางถนนหลวง ศัตรูก็ได้ปรากฏตัวออกมา และในเวลานั้นเอง ยูตะอยู่ในรัศมีที่กำลังจะโดนลูกหลง ยูตะจึงตะโกนเรียกชื่อเดกการ์ดและเหมือนปาฏิหาริย์ โปรแกรม AI ของเดกการ์ดทำงาน เขาจึงพังตู้คอนเทนเนอร์ ออกมาช่วยยูตะ และหลังจากนั้นเอง เซย์จิม่าจึงเลือกยูตะ ที่สามารถมอบหัวใจและจิตวิญญาณในการต่อสู้กับความเป็นมนุษย์กับเดกการ์ดให้ มาเป็นผู้ กองประจำหน่วย Brave Police ซึ่งเราผู้กล้าจะเรียกยูตะในยามปฏิบัติภารกิจว่า “บอส” และในตอนอวสานนั้น AI ของเจ-เด็คเกอร์ เสียหายหนัก ยูตะได้แสดงความกล้าหาญด้วยการ เปลี่ยนโหมดควบคุมของเจ-เด็คเกอร์จากที่เคลื่อนไหวตามความคิดตัวเอง ให้กลายเป็นบังคับโดย คอนโทรลเลอร์ในค็อกพิทที่ยูตะนั่งอยู่ แต่หลังจากนั้น เจ-เด็คเกอร์ ก็ฟื้นขึ้นมาด้วยพลังของตัวเอง

นิสัยเสียของยูตะก็คือ ค่อนข้างเอาแต่ใจ เพราะเป็นลูกคนสุดท้อง และค่อนข้างขี้แย แต่เขาก็มีจุดดีคือ วาดรูปเก่ง และเคยวาดรูปให้เดกการ์ดในวันที่คล้ายวันเดินโปรแกรม AI ของเดกการ์ดเป็นวันแรก ซึ่งเปรียบเสมือนวันเกิดของเดกการ์ดนั่นเอง

ความลับอีกอย่างที่ยูตะแทบไม่อยากจะพูดถึงก็คือ ยูตะต้องยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิง เพื่อเข้าไปสืบความลับในโรงเรียนสตรีแห่งหนึ่งอีกด้วย

Posted Image

ยูตะ จะมีอุปกรณ์ประจำตัวคือ Police Handbook ซึ่งติดตรา Brave Police ไว้อีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ มีไว้สื่อสาร และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในการจับกุมผู้ก่อการร้าย อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่บรรจุ Memory ที่เซฟคำสั่งประกอบร่างของเหล่าผู้กล้าไว้

Posted Image

TOMONAGA AZUKI (พากษ์โดย Neya Michiko)
พี่สาวคนโตของตระกูล โทโมะนากะ เรียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ปี 2 อายุ 16 ปี มีนิสัยอ่อนหวาน แอ๊บแบ๊วนิดๆ และต้องทำหน้าที่แทนแม่ ทุกอย่าง ทำอาหารเก่ง เวลาโกรธจะน่ากลัวมาก แต่ก็มีนิสัยขี้กลัวนิดๆ แอบชอบนักเรียนแพทย์ชื่อ คาชิวาซากิ ที่อยู่ข้างบ้าน บางครั้งก็ชอบอ้อนให้เดกการ์ดส่งที่โรงเรียนเป้นประจำ โดยเธอมักจะเรียกเดกการ์ดว่า “คุณรถตำรวจ” สนิทกับชาโดวมารุมากที่สุด

Posted Image

TOMONAGA KURUMI (พากษ์โดย Yanada Mika)
พี่สาวคนรองของยูตะ ท่าทางเหมือนทอมบอย มีนิสัยห้าว ใจร้อน ชอบแกล้งยูตะ อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.ต้น ปี 2 มีนิสัยเสียคือ ชอบบังคับให้เดกการ์ดไปส่งที่โรงเรียนให้ (ซึ่งเดกการ์ดไม่ค่อยตามใจ) เอาแต่ใจคล้ายๆยูตะ ชื่นชอบเรื่องเหนือธรรมชาติเอามากๆ


Posted Image

TOMONAGA YUUCHIRO (พากษ์โดย Shiroyama Ken)
พ่อของยูตะ เป็นนักโบราณคดี ปัจจุบันอาศัยอยู่ต่างประเทศ ส่วนตัวนั้น เขาสนใจที่จะทำการวิจัยเรื่องสายพันธุ์แมลงยุคดึกดำบรรพ์ และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นในเมือง เมื่อวัตถุโบราณที่พ่อของยูตะ นำกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อจะมาตั้งโชว์เป็นของประดับบ้าน กลับกลายเป็นว่ามันมีไข่แมลงยักษ์ยุคโบราณ แฝงอยู่ในนั้น และมันก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด ออกอาละวาดในเมือง แต่เพราะ สภาพอากาศที่สกปรกจากโรงงาน ทำให้ร่างกายของมันที่เพิ่งเติบโตจากดักแด้ ต้องสลายไป

Posted Image

TOMONAGA AMAMI (พากษ์โดย Ishii Naoko)
แม่ของยูตะ ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศกับยูจิโร่ ผู้เป็นสามี

Posted Image

URUMEAW
แมวตัวผู้ อายุ 2 เดือนที่บ้านของยูตะเลี้ยงไว้ บางครั้งก็ทำหน้าที่เป็นเพื่อนคุยกับเดกการ์ด เวลาอยู่ในโรงรถด้วย ช่วงแรก ดันถูกผูกโบว์แดงซะหวานแหว แต่ช่วงหลัง มันก็กลายเติบโตเป็นแมวตัวผู้ที่ร่างกายเติบใหญ่และสง่างามยิ่งขึ้น

Posted Image

OMURA (พากษ์โดย Hoshino Akira)
ช่างไม้อารมณ์ดีที่อยู่ข้างบ้านยูตะ คนละแวกนั้นชอบเรียกว่า “หัวหน้า” เพราะมีลักษณะความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม มั่นใจในตัวเอง งานอดิเรกคือชอบเล่นหมากรุก มีหุ่นยนต์ก่อสร้างสีแดงที่เขาภูมิใจในความแข็งแกร่งของมันนักหนาว่า เดนคิจิ ซึ่งเคยเอามาแข่งงัดข้อกับเดกการ์ด แต่เดกการ์ดเห็นว่าถ้าตนออกแรงเหมือนทุกครั้ง หุ่นของโอมรุคงพังเอาง่ายๆแน่นอน เลยจงใจแกล้งแพ้ เป็นเหตุให้ยูตะงอนไปเลย

โอมุระ มี คำพูดติดปากประกอบท่าทางที่ชาวบ้านมักเห็นเป็นประจำคือ การเอาสันมือบี้จมูก แล้วพุดว่า “เชอะ บ้าจริงๆไอ้พวกงี่เง่า” ซึ่งเดกการ์ด กับ เซย์จิม่าก็เคยเลียนแบบเอาไปใช้

Posted Image

ITOHATA SANAE (พากษ์โดย Kobayashi Takumi)
คุณป้าร่างอ้วน อารมณ์ดี แต่มีนิสัยเสียคือชอบจับกลุ่มระหว่างแม่บ้านด้วยกันเองแล้วเมาท์แตก นินทานู่นนี่ อยู่บ้านละแวกเดียวกันกับยูตะ จึงมักจะมาหาพวกยูตะเป็นประจำ ถูกใจเดกการ์ด และชอบแวะมาคุยมาถ่ายรูปด้วย มักจะกลุ้มใจเรื่องน้ำหนักของตัวเองที่เกินพิกัดอยู่บ่อยๆ

Posted Image

MUDORA (พากษ์โดย Okiayu Ryutaro)
ชาวอินเดีย ที่มาทำร้านกาแฟอยู่ใกล้ๆบ้านของยูตะ มักจะทำท่าพนมมือแล้วทำหัว ยึกยักๆ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ชอบแวะเวียนมาคุยกับเดกการ์ดเป็นประจำ

Posted Image

KITAGAWA MASAKI (พากษ์โดย Kobayashi Takumi)
เพื่อนของยูตะ ลักษณะเด่นคือไว้ผมทรงผมตั้ง แข็งแรงสุดในกลุ่ม มีนิสัยใจร้อน ทะเลาะกับยูตะบ้างเป็นบางครั้ง และที่ไม่น่าเชื่อคือ เห็นท่าทางแกร่งแบบนี้ แต่กลับกลัวผีเอามากๆ วาดรูปไม่เก่ง แต่มีความเป็นผู้นำสูง เขาสนิทกับพาวเวอร์โจ เพราะเจอกันบ่อย

Posted Image

TAKAMARO TAKANO (พากษ์โดย Neya Michiko)
เพื่อนของยูตะ ใส่แว่นตาเป็นเอกลักษณ์ เรียนเก่งที่สุดในกลุ่ม สนิทกับพาวเวอร์โจเช่นเดียวกับมาซากิ

Posted Image

EMIRI
เพื่อนสาวแสนแอ๊บแบ๊วของยูตะ มักจะพูดว่า พาวเวอร์โจน่ารัก แบบนั้นแบบนี้ตลอดเวลา


Posted Image

-ฝ่ายหน่วย Metropolitan Police Department (MPD)

Posted Image

SAEJIMA YUZO (พากษ์โดย Otomo Ryuzaburo)
สารวัตรใหญ่ของ SPD เป็นผู้ที่เริ่มโครงการ Brave Police Project ขึ้นมา เป็นคนกล้าหาญ สุขุม และฉลาด อดีตสมัยหนุ่มนั้น เขาเคยเป็นนักบินหุ่นยนต์รักษาความปลอดภัยของกรมตำรวจด้วย และเขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสารวัตรของ SPD ตั้งแต่อายุ 45 ปี บางครั้งก็ชอบทำอะไรตลกๆให้เห็น อย่างเช่น คิดท่าให้ยูตะเวลาจะสั่งให้เหล่าผู้กล้า ประกอบร่างกัน

เขาเล็งเห็นถึงความสามารถของยูตะ และทึ่งในความผูกพันที่มนุษย์มีให้ต่อหุ่นยนต์ จึงทำให้เขาเลือกยูตะเข้ามาเป็น หัวหน้าทีม Brave Police และมอง Brave Police Booklet ให้กับยูตะ บางครั้งเขาก็จะมาออกทำหน้าที่ภาคสนามพร้อมๆกับยูตะอีกด้วย

จริงๆแล้ว สารวัตรเซย์จิม่า แกเป็นคนรวยเหมือนกัน เปิดบริษัทของตัวเอง มีรถ เมอร์ซิเดซ เบนซ์ขับอีกด้วย

Posted Image

AZUMA KAZUTO (พากษ์โดย Oka Kazuo)
รองสารวัตรของหน่วย MPD รูปร่างใหญ่ ใส่แว่น ท่าทางเชื่องช้า ไม่กินเส้นกับสารวัตรเซย์จิม่า บางครั้งชอบตวาด และสั่งการเหล่าผู้กล้าแบบเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งแน่นอน เหล่าผู้กล้าไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขาเลย แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้ว เขาเป็นคนที่ให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบ AI ของเหล่าผู้กล้ามาโดยตลอด เพราะในอดีต เขาเคยเป็นเพื่อนกับ ชินโจ อาชญากรที่ในเวลานั้น พึ่งสามารถเข้าบรรจุในหน่วยงานวิจัยด้านหุ่นยนต์ แต่มีร่างกายอ่อน และมีความฝันอยากจะพัฒนาระบบ AI ให้กับหุ่นยนต์ ให้มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ ดังนั้น อาซุมะ จึงพยายามที่จะสานฝันของอดีตเพื่อนรักมาโดยตลอด

Posted Image

TOUDO SHUNSUKE (พากษ์โดย Tsukada Masaaki)
นายตำรวจที่ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าวิศวกรของ MPD เป็นผู้ที่สร้างระบบ และอาวุธทุกอย่างของ Brave Police Project มีความทั้งด้านวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ รักเดกการ์ดและเหล่าผู้กล้าทุกๆคนเหมือนลูกของตัวเอง

Posted Image

REGINA ARGINE (พากษ์โดย Miyamura Yuko)
ตำรวจสาวอัจฉริยะ ที่เรียนจบด้านวิศวกรรมเครื่องกลจากมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ด้วยวัยเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น และปัจจุบัน ก็ยังได้ทำหน้าที่ออกแบบ และเขียนโปรแกรมพัฒนาระบบ AI ให้เหล่าหุ่นผู้กล้าที่สังกัดอยู่ที่สก๊อตแลนด์อีกด้วย เธอมีปูมหลังที่ว่า ต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังเด็ก จากเหตุอาชญากรรม ตอนแรก เรจิน่า คิดเพียงแค่ว่า หุ่นยนต์ก็คือหุ่นยนต์วันยังค่ำ ไม่สามารถมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์ไปได้ จึงทำให้ช่วงแรกๆนั้น เรจิน่ากับยูตะ จะไม่ถูกกันเอามากๆ เธอเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น เพราะนำดุ๊ค ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้กล้าจากอังกฤษที่มีทักษะการต่อสู้เป็นเลิศ มาช่วยผนึกกำลังกับ Brave Police ของญี่ปุ่น และในเวลานั้น เจ-เด็คเกอร์ พึ่งถูกทำลายลง

หลังจากเดกการ์ดฟื้นคืนสติหลังจาก AI เสียหายอย่างหนัก ความทรงจำทุกอย่างกลับคืนมาอย่างปาฏิหาริย์ ทำให้เรจิน่า เริ่มมีความรู้สึกเปลี่ยนไป เธอเริ่มเชื่อว่า หุ่นยนต์เหล่านี้ เหมือนมนุษย์ และท้ายที่สุด เธอก็ได้แสดงความรัก ความห่วงใยที่มีแต่ดุ๊ค จากที่เคยคิดว่าดุ๊คเป็นเพียงหุ่นยนต์ลูกน้องที่ต้องฟังคำสั่งเธออย่างเดียว
หลังจากปรับความเข้าใจกับยูตะได้ เธอก็ได้มอบ Memory Stick ที่บรรจุโปรแกรมคำสั่งรวมร่างของดุ๊ค ให้ยูตะไว้ใช้ต่อ ส่วนเธอเดินทางกลับประเทศอังกฤษไป และได้มาปรากฏตัวอีกครั้งหนึ่งก็คือช่วงท้ายๆซีรี่ย์

Posted Image

KASHIWAZAKI MASAYA (พากษ์โดย Yamazaki Takumi)
นักเรียนแพทย์ที่เป็นเพื่อนบ้านกับครอบครัวของยูตะ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ที่อาซุกิหลงรักอยู่ แต่ในช่วงกลางเรื่อง เขาโดนเอเลี่ยนนาม คาเพีย เข้าสิง เพื่อที่จะได้แฝงตัวทำงานบนโลกเพื่อช่วยเหลือเหล่า Brave Police ในการต่อกรกับเหล่าศัตรูที่มาจากนอกโลก

Posted Image

ONOUE SEIA (พากษ์โดย Ishigawa Etsuko)
ทหารหญิง หัวหน้าหน่วยกองกำลังป้องกันเอง ของทางฝั่งเหนือ อยู่หน่วยที่ 9 เธอให้ความร่วมมือกับ Brave Police มาตลอด สนิทกับแมคเครน สมาชิกทีม Build Team ครั้งหนึ่ง เธอเคยถูกเอเลี่ยนล้างสมองทำให้เธอเปลี่ยนจากทหารหญิงสุดเฮี๊ยบ กลายเป็นสาวเจ้าเสน่ห์ อีกทั้งยังเปิดเผยว่า เธอต้องเครียดกับการต้องไดเอ็ท ลดน้ำหนัก แต่พอโดนเอเลี่ยนสิงแค่นั้น เธอกินแฮมเบอร์เกอร์กองโตเท่าภูเขาชนิดไม่เหลือไม่แบ่งให้ใครเลย และเมื่อแมคเครนพยายามเข้าห้าม เธอก็ได้จูบที่ริมฝีปากของแมคเครนซะอย่างนั้น

Posted Image

AYAKO KEN (พากษ์โดย Kobayashi Takumi)
สาวห้าว ผู้เป็นนักเขียนอิสระ อาศัยอยู่ที่แมนชั่น ซึ่งห้องเธอ รกมากถึงมากที่สุด เต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์ หนังสือ เอกสาร และคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง ตามสไตล์สาวโสด สนิทกับดัมพ์สัน เธอมักจะมาทำสัมภาษณ์หน้าที่การทำงานของเหล่าผู้กล้า ที่กรมตำรวจ MPD บ่อยครั้งจนคุ้นเคยกับยูตะและเซย์จิม่า ชอบนั่งคุยกับดัมพ์สัน โดยมักจะนั่งอยู่ที่หลังเท้าของดัมด์สัน

Posted Image

KAPIA (พากษ์โดย Yamazaki Takumi)
มนุษย์ต่างดาวจากดาวเคราะห์โดรันที่ 6 ที่มีความแค้นต่อ มนุษย์ดาวไฮจาสึ ศัตรูเก่า ที่ไม่มีร่างกายที่แท้จริง มีเพียงแค่ร่างกายที่เป็นเพียงพลังงานสีดำนั้น ที่เคยควบคุมจิตใจของพวกพ้องบนดาวบ้านเกิด จึงได้แฝงตัวลงมายังโลก และเข้าสิง คาชิวาซากิ เพื่อคอยให้ข้อมูล และช่วยเหลือเหล่า Brave Police ในตอนอวสานนั้น ด้วยความที่ว่า สิงอยู่ในร่างของคาชิวาซากิมาตลอด จนสามารถอ่านจิตใจของร่างที่ตัวเองมาสิงได้ จึงรู้ว่า จริงๆแล้ว คาชิวาซากินั้นก็มีใจชอบ อาซุกิ อยู่เหมือนกัน จึงบอกความในใจให้อาซุกิรู้ และสุดท้าย ก็ได้ออกจากร่างของ คาชิวาซากิเพื่อเดินทางไปกำจัดศัตรูในจักรวาลพร้อมกับเดกการ์ดแต่ทว่าภาย หลังนั้น คาเพียได้คู่หูคนใหม่นั่นก็คือ จิตใจแห่งคุณธรรมที่กลับคืนมาของ วิคทิม ในร่างหุ่นยนต์ ทั้งสองจึงได้เดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อจัดการกับศัตรูต่อไป



-ฝ่ายศัตรู

Posted Image

SHINJO KEN
อดีตวิศวกรอัจฉริยะของ MPD เขาคือผู้บุกเบิกโครงการพัฒนาระบบ Super AI ของเหล่าหุ่นผู้กล้า เป็นคนคุ้นเคยกับรองสารวัตรอาซุมะ ซึ่งสองคนนี้สนิทกัน หลังจากชินโจลาออกจาก MPD ได้หันไปฝักใฝ่ กับเหล่าอาชญากรอย่าง วิคทิม ออร์ลันโด้ แทน ซึ่งเขาคือ 1 ในผู้ที่คิดค้น AI ให้กับหุ่นฝาแฝดแดงน้ำเงินอย่าง พี่น้องชีฟเทน นั่นเอง ปัจจุบัน ชินโจ ถูกคุมขังอยู่ที่สถานจองจำของ MPD กลางมหาสมุทร

ชินโจมีบทบาทสำคัญอีกอย่างคือ เขาเป็นผู้ที่บอกความลับเรื่องการล้างระบบ AI ของอาชญากรให้กับเรจิน่าได้รับรู้

Posted Image

VICTIM ORLANDO (พากษ์โดย Koyasu Takehito)
วิศวกรหุ่นยนต์ระดับหัวกะทิอีกรายหนึ่ง ซึ่งเป็นอีก 1 ในผู้ที่คิดค้นและสร้าง AI ของ ฝาแฝดจักรกลสงครามอย่าง “พี่น้องชีฟเทน” ขึ้นมา มีความสามารถในการใช้โทรจิตพูดคุยกับพี่น้องชีฟเทนได้ แต่ความจริงแล้วนั้น ออร์ลันโด้ถูกฆ่าตายไปนานแล้ว เนื่องจากว่า ด้วยความอัฉริยะของเขานั้น ไปเข้าหู นูบา ฟาซุกต์ ประธานบริษัท โทนี่ ครูซาเดอร์ เข้า และพยายามทาบทามให้มาเป็น วิศวกรสร้างหุ่นยนต์สงครามเพื่อการก่อการร้าย แต่เขาไม่ยอมไปตามข้อเสนอ จึงถูกเก็บ และหลังจากนั้น นูบา ก็ได้สมองของเขา มาดัดแปลงและบรรจุเข้าไปในร่างหุ่นแอนดรอยด์ เพื่อไว้เป็นวิศวกรสร้าง จักรกลสงครามอย่าง ชีฟเทน ขึ้นมา ภายหลังถูก นูวาฆ่าตาย

ภายหลังนั้น นูบาได้เอาสมองของวิคทิม ใส่ลงไปในร่างหุ่นยนต์บรรจุสมองกล ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดหุ่นรบไร้พ่ายวิคทิมไปในที่สุด แต่ภายหลัง เขาได้จิตใจแห่งคุณธรรมกลับคืนมา จึงได้ช่วยเหลือเหล่า Brave Police สู้กับนูบาจนตัวตาย แต่ว่า คาเพียได้เรียกเอาดวงวิญญาณของเขา กลับคืนชีพในร่างผู้กล้าคนใหม่ เขาจึงเดินทางไปพร้อมกับคาเพียเพื่อกำจัดศัตรูในอวกาศ โดยที่เขายังเรียกคาเพียว่า “บอส” อีกด้วย

Posted Image

NEUVA FAHRZEUG (พากษ์โดย Tobita Tetsuo)
ลูกชายของ อีบา ฟาซุกต์ เขาคืออดีตประธานบริษัท โทนี่ ครูซาเดอร์ ซึ่งแน่นอนว่า ชื่อในวงการเทคโนโลยีวิศวกรรมหุ่นยนต์นั้น ก็คือ โทนี่ ครูซาเดอร์นั่นเอง เขาคือผู้ที่เริ่มต้นโครงการ จักรกลสงครามชีฟเทนขึ้นมา และเป็นผู้ดัดแปลง วิคทิมที่ตายไปแล้วให้เป็นแอนดรอยด์ เป้าหมายของเขาก็คือ ต้องการที่จะปลุก อีบา ผู้เป็นแม่ ให้ฟื้นขึ้นมาหลังจากถูกจองจำอยู่ในโลงแก้วใต้ดินใน เอโตเนีย โดยส่วนตัวแล้ว นูบามีความแค้นต่อหน่วย Brave Police มากเป็นพิเศษก็เพราะ อีบาผู้เป็นแม่นั้น แท้จริงคือ บุคคลที่พัฒนาระบบสมองกลหรือ AI เป็นคนแรกของโลก แต่ในช่วงเวลานั้น แม่ของเธอถูกจับกุม เพราะมีความคิดที่จะสร้างระบบ AI ให้กับหุ่นยนต์เพื่อไปใช้ในด้านอาชญากรรม และเมื่อญี่ปุ่นสามารถพัฒนาระบบ AI ของหุ่นยนต์ให้เป็น หน่วย Brave Police ได้เป็นแห่งแรก จึงเคียดแค้นต่อเหล่า Brave Police มากเป็นพิเศษ ซึ่งเหมือนกับว่า ผลงานเรื่อง AI ของแม่เขานั้น ถูกแย่งไปนั่นเอง

ภายหลัง หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ Brave Police เขาพยายามที่จะสังหารยูตะ รวมทั้งพี่สาวของเขา ในช่วงที่เดกเคิร์ด เดินทางไปในอวกาศ แต่ก็พลาด หลังจากนั้น เขาจึงขอให้ชีฟเทน ช่วยนำโลงแก้วที่เขากับแม่ จะขอนอนแช่แข็งอยู่ด้วยกันนั้น นำฝังไว้ยัง เอโตเนียเช่นเดิม เพื่อที่จะได้อยู่กับแม่ด้วยตลอดไป


Posted Image

EVA FAHZEUG (พากษ์โดย Ito Miki)
อดีตเจ้าแม่วงการวิทยาศาสตร์หุ่นยนต์ ซึ่งเป็นผู้ที่บุกเบิกการพัฒนาระบบ AI คนแรกของโลก แต่เมื่อ 20 ปีก่อน เธอหมายมั่นจะเอาระบบ AI ที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในทางที่ผิด จึงถูกตำรวจประเทศ เอโตเนีย จับกุม และนำไปแช่แข็งไว้ในโลงแก้ว และฝังไว้ใต้ดินตลอดกาล แต่ว่า นูบาผู้เป็นลูกชายก็ช่วยเธอขึ้นมา เพื่อเป็นของขวัญคืนวันคริสมาสต์

ท้ายสุดนั้น เธอกับลูกชายที่พ่ายแพ้ต่อ Brave Police และได้รับการช่วยเหลือจาก ชีฟเทน ก็ได้นอนหลับใหลอยู่ในโลงแก้วใต้ดินในเอโตเนียชั่วนิรันดร์

Posted Image

HAIJASU
มนุษย์ต่างดาวที่เคยรุกรานดาวบ้านเกิดของคาเพีย และเข้าควบคุมจิตใจของคนบนดาวจนหมด และคราวนี้ พวกมันได้มาตั้งฐานบนดาวพฤหัส และได้บุกเข้ายึดโลกไว้ แต่ด้วยการเจรจาของยูตะกับเหล่า Brave Police จึงทำให้พวกมันต้องล่าถอยไป


Posted Image

MAIN MECHANICS
แน่นอนว่าเหล่าหุ่นผู้กล้าในเรื่องนี้ มีความเป็นมนุษย์มากกว่าซีรี่ย์ยูฉะที่ผ่านมา จะให้แค่ว่าเหมือนมนุษย์ที่จิตใจและท่าทางอย่างเดียวคงไม่ได้ ก็ต้องให้สถานที่โดยรอบที่พวกเขาประจำการอยู่เหมือนมนุษย์ไปด้วย ซึ่งจุดนี้ แตกต่างจากยูฉะที่เริ่มต้นในการที่ให้หุ่นยนต์ในเรื่องเกิดจากผลงานการสร้าง ของมนุษย์อย่างไมท์ไกน์นั่นก็คือ เหล่าผู้กล้าในเจ-เดกเกอร์นี้ พวกเขาขึ้นตรงกับหน่วยงานตำรวจ พวกเขาจึงมีห้องสำนักงานขนาดยักษ์ อยู่ด้านข้างกรมตำรวจ MPD ซึ่งภายในห้องทำงานพวกเขา มีทั้ง โทรศัพท์ขนาดใหญ่ ซึ่งหากใครมีเรื่องเดือดร้อน สามารถต่อสายตรงถึงหน่วย Brave Police ได้ทันที โต๊ะประจำตำแหน่งขนาดใหญ่ รวมทั้ง หนังสือกฎหมายต่างๆของพวกเขาไว้อ่านกันด้วย

Posted Image
Posted Image
DECKERD (พากษ์โดย Furusawa Toru)
ตำแหน่ง : หัวหน้าหน่วยสายตรวจผู้กล้า
รหัสตัวเครื่อง : BP-110
ส่วนสูง : 5.12 เมตร
น้ำหนัก : 2.15 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 87 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 3200 แรงม้า

Vehicle Mode
สามารถแปลงร่างเป็นรถตำรวจสีขาวรุ่น เชพโรเล็ต คอร์เว็ตรุ่นที่ 34 ได้ ปกติหลังจากหมดหน้าที่ จะมาจอดอยู่ที่โรงรถบ้านยูตะ
ความยาว : 4.49 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 427 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
ปืนสั้นแบบ .357 แม็กนั่ม (Magnum) : อาวุธหลักของเดกการ์ด ขนาดบรรจุ 6 นัด

อุปกรณ์ส่วนตัว : โพลิศแฮนด์บุ๊ค – อุปกรณ์สื่อสารแบบเดียวกับยูตะ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเหล่าสมาชิก Brave Police จะมีติดตัวไว้ทุกคนเพื่อการสื่อสาร และแสดงต่อผู้ร้ายยามจะเข้าจับกุม

นายตำรวจเหล็ก ซึ่งเป็นผู้กล้าคนแรกที่ได้รับการบรรจุ AI เข้าไว้ในร่างกาย เขาคือหุ่นผู้กล้าที่เต็มไปด้วยจิตใจแห่งคุณธรรม ฉลาด แข็งแกร่ง มีความเป็นผู้นำ รักยูตะเสมือนเป็นพี่น้อง เพราะยูตะคือคนๆแรกที่เดินวงจรภายในตัวเขาให้ตื่นขึ้น

ในช่วงแรกนั้นเดกการ์ดคือหุ่นยนต์รุ่นทดสอบของกรมตำรวจที่อยู่ในช่วงที่ยัง ไมได้ประกอบส่วนบอดี้ภายนอก แต่ยูตะที่มาเล่นเครื่องบังคับนั้น ได้เผลอตกลงไปในโรงงานใต้ดิน และไปกระแทกแผงควบคุมการทำงานของ AI ทำให้เดกการ์ดตื่นขึ้น หลังจากนั้น เขาก็ได้รับการแนะนำ และสอนท่าทางต่างๆ ที่เหมือนมนุษย์จากยูตะ ตั้งแต่การพูด การเดิน การออกท่าทางยิงปืนต่างๆ จนทำให้เขากับยูตะรู้สึกผูกพันต่อกัน และทำให้เดกการ์ดรู้สึกเหมือนว่าตัวเองก็คือมนุษย์ มักจะทำหน้าที่ในการพาพี่สาวของยูตะไปส่งโรงเรียนเป็นประจำ และสนิทกับพวกเพื่อนบ้านยูตะแทบทุกคน

ในตอนที่ 1 หลังจากที่เดกการ์ดได้กล่าวอำลายูตะเพราะจะต้องโดนปิดระบบ AI เพื่อจะนำไปโชว์ตัวให้ประชาชนได้เห็นถึงเทคโนโลยีระบบ AI ที่ทางกรมตำรวจสร้างขึ้นและบรรจุเข้าในตัวหุ่นยนต์อย่างเขา ในช่วงที่กำลังลำเลียงอยู่ในรถเทรลเลอร์กลางถนนหลวง ศัตรูก็ได้ปรากฏตัวออกมา และในเวลานั้นเอง ยูตะอยู่ในรัศมีที่กำลังจะโดนลูกหลง ยูตะจึงตะโกนเรียกชื่อเดกการ์ดและเหมือนปาฏิหาริย์ โปรแกรม AI ของเดกการ์ดทำงาน เขาจึงพังตู้คอนเทนเนอร์ ออกมาช่วยยูตะ และหลังจากนั้นเอง เซย์จิม่าจึงเลือกยูตะ ที่สามารถมอบหัวใจและจิตวิญญาณในการต่อสู้กับความเป็นมนุษย์กับเดกการ์ดให้ มาเป็นผู้
กองประจำหน่วย Brave Police ซึ่งเราผู้กล้าจะเรียกยูตะในยามปฏิบัติภารกิจว่า “บอส”

เดกการ์ดเสียชีวิตจากการสังหารของฝาแฝดหุ่นสงคราม ชีฟเทน แถมยังโดนวิคทิม ขโมยร่างที่เสียหายของเดกการ์ด กับ เจโรดเดอร์ ที่หน่วยทหารของซีเอ กำลังขนกลับมา MPD นำไปดัดแปลงให้กลายเป็นหุ่นชีวะที่มีนิสัยชั่วร้ายแทน แต่เหล่าผู้กล้าคนอื่นก็ช่วยไว้ได้ ซึ่งหลังจากได้รับการซ่อมแซมนั้น ระบบ AI ของเดกการ์ดเสียหายอย่างหนักจนความจำเสื่อม และจำอะไรไม่ได้ รวมทั้งจำยูตะไม่ได้ แต่ด้วยความรู้สึกที่มีต่อยูตะที่เป็น ระบบโปรแกรมที่ไม่ได้ถูกทำลายไปนั้น ได้ตื่นขึ้น ก่อนที่เรจิน่าจะล้างโปรแกรมให้เดกการ์ดทำให้เขาฟื้นความทรงจำขึ้นมาได้
ในตอนอวสาน เดกการ์ดเป็นตัวแทนเหล่าผู้กล้า ที่จะเดินทางไปปราบศัตรูต่างๆในจักรวาลพร้อมกับคาเพีย แต่ก็ได้กลับมายังโลก เหตุก็เพราะ คาเพียได้คู้หูคนใหม่ร่วมเดินทางไปแทน และโลกใบนี้ ยังจำเป็นต้องมีผู้กล้าอย่างเดกการ์ดอยู่นั่นเอง

ทุกครั้งที่เดกการ์ดจะเข้าตับกุม เขาจะประกาศตัวเองว่า “ยอมมอบตัวซะ นี่สายตรวจผู้กล้า เดกเคิร์ด!!”

Posted Image

J-ROADER

ความยาว : 13.32 เมตร
น้ำหนัก : 9.34 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 385 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
ปืนลำแสง 2 กระบอก (Twin Laser) : ติดตั้งอยู่ที่ด้านบนของเทรลเลอร์ด้านหลัง

รถเทรลเลอร์ขนาดยักษ์ ซึ่งมีไว้เพื่อช่วยเหลือเดกการ์ด สามารถประกอบร่างกับเดกการ์ดกลายเป็น เจ-เดกเกอร์ ได้ โดยจะกลายเป็นส่วนร่างกายแทบจะทุกส่วนยกเว้ย หน้าอกกับส่วนหัวของ เจ-เดกเกอร์ วิ่งได้เอง หรือวิ่งตามคำสั่งของผู้ที่ถือ โพลิศแฮนด์บุ๊ค หรือแม้แต่ ขึ้นไปนั่งขับที่ห้องคนขับได้เลย ท้ายรถสามารถบรรทุก เดกการ์ดในร่างรถตำรวจได้ ถูกทำลายไปในตอนที่ 25 แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมในภายหลัง



Posted Image

J-DECKER (พากษ์โดย Furusawa Toru)

ส่วนสูง : 18.16 เมตร
น้ำหนัก : 11.49 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 380 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ความเร็วในการบินสูงสุด : 3750 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 12900 แรงม้า

Weapon Unit
อิเล็กโทรแม็กเนติก บาร์ตัน (Electro Magnetic Barton) : พลองยาวที่มีไว้ต่างดาบ ฟันศัตรูให้ขาดเ)นสองท่อนได้
เจ-บัสเตอร์ (J-Buster) : ปืนเลเซอร์สุดแม่นยำของเจ-เดกเกอร์ สามารถปรับลำกล้องและปากกระบอกปืน ให้กลายเป็นรูปแบบปืนไรเฟิลสามารถยิงศัตรูในระยะไกลได้
แม็กซ์แคนนอนโหมด (J-Decker Max Cannon Mode): เป็นการใช้ร่างปืนใหญ่ของ กันแม็กซ์ เป็นอาวุธ

หุ่นผู้กล้าร่างใหญ่ เกิดจากการประกอบร่างของเดกการ์ด กับ เจ-โรดเดอร์ ซึ่งเมื่อประกอบร่างนั้น ส่วนหัวของเดกการ์ด จะเข้าไปควบคุมระบบต่างๆของ เจ-เดกเกอร์ ที่ส่วนหัวโดยจะมีเฟสการ์ดช่วงปกปิด เมื่อประกอบร่างแล้ว จะเพิ่มความสามารถด้านการบินเข้าไปด้วย มีความแข็งแกร่ง ฉลาด และรวดเร็ว
เดกการ์ด จะสามารถประกอบร่างได้นั้น จะอาศัยคำสั่ง จากยูตะ รหัสการประกอบร่างก็คือ “เบรฟอัพ !! เจ-เดกเกอร์” ในตอนอวสานนั้น เจ-เดกเกอร์ AI เสียหายหนัก ทำให้ยูตะที่อยู่ในภายในค็อกพิท ได้เปลี่ยนระบบเป็นการบังคับด้วยคอนโทรลเลอร์แทน


Posted Image

DUKE (พากษ์โดย Morikawa Toshiyuki)

ตำแหน่ง : รองหัวหน้าหน่วยสายตรวจผู้กล้า
รหัสตัวเครื่อง : BP-119
ส่วนสูง : 5.17 เมตร
น้ำหนัก : 3.17 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 93 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด : 5200 แรงม้า

Vehicle Mode
สามารถแปลงร่างเป็นรถพยาบาลสีขาวโตโยต้า เอสติมา
ความยาว : 4.75 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 470 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
ปืนสั้นแบบ .357 แม็กนั่ม
ดาบยาว (Long Sword) : ดาบซึ่งเป็นอาวะหลักของดุ๊ก

ผู้กล้าจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเคยมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสายตรวจผู้กล้าแห่งสหราชอาณาจักร เดินทางมายังญี่ปุ่นเพื่อช่วยเดกการ์ด ซึ่งในช่วงที่เดกการ์ดร่างกายเสียหายอย่างหนัก เขาได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำแทน มีนิสัยที่ค่อนข้างออกไปในทางเอกบุรุษ มีความภูมิใจในยศตำแหน่ง ที่ซึ่งทางอังกฤษเรียกเขาว่า อัศวิน เลยทีเดียว เขาได้รับการออกแบบโดย เรจิน่า ซึ่งเขานั้นมักจะเรียกเรจิน่าว่า “เลดี้” เสมอ ถนัดการใช้ดาบเป็นพิเศษ เป็นส่วนแขนทั้งสองข้างของหุ่นดุ๊คไฟเยอร์ และเป็นออพชั่นแขนซ้าย-ขวาของ ไฟเยอร์เจ-เดกเกอร์

ตอนแรก เขาเองก็ไม่ค่อยจะลงรอยกับเหล่าผู้กล้าคนอื่นเท่าไหร่นัก อีกทั้ง ยูตะเองก็ยังลืมเดกการ์ดไม่ได้ เลยรับไม่ได้ที่ดุ๊คจะมาทำหน้าที่แทนเดกการ์ด แต่เมื่อแสดงความกล้าหาญและความจริงใจให้ทุกคนเห็น ดุ๊คก็ได้รับการยอมรับให้เป็น 1 ในสมาชิกของ Brave Police ในที่สุด และได้ตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าหน่วยผู้กล้าสายตรวจเมื่อ เดกการ์ดได้รับการซ่อมแซม และกลับมาทำหน้าที่

อุปกรณ์ส่วนตัว : โพลิศแฮนด์บุ๊ค – อุปกรณ์สื่อสารแบบเดียวกับยูตะ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ซึ่งเหล่าสมาชิก Brave Police จะมีติดตัวไว้ทุกคนเพื่อการสื่อสาร และแสดงต่อผู้ร้ายยามจะเข้าจับกุม

Posted Image

FIRE ROADER

ความยาว : 13.16 เมตร
น้ำหนัก : 11.43 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 410 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 16000 แรงม้า

รถดับเพลิงขนาดใหญ่ ที่เป็นยานพาหนะเสริมของดุ๊ค มีความสามารถในการดับไฟได้อย่างดี สามารถแปลงระบบเพื่อประกอบร่างให้เป็นลำตัวของดุ๊คไฟเยอร์ได้

Posted Image

DUKE FIRE (พากษ์โดย Morikawa Toshiyuki)
ส่วนสูง : 18.55 เมตร
น้ำหนัก : 14.6 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 460 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ความเร็วในการบินสูงสุด : 4300 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 21200 แรงม้า

Weapon Unit
ไฟเยอร์ซอร์ด (Fire Sword): ดาบขนาดใหญ่ที่เก็บไว้ในฝักด้านหลัง เป็นอาวุธหลักของดุ๊คไฟเยอร์
ไฟเยอร์บัสเตอร์ (Fire Buster): ปืนเลเซอร์แบบเดียวกับของเจ-เดกเกอร์ แต่ต่างกันแค่สี ความสามารถก็เหมือนกับเจ-บัสเตอร์ทุกประการคือ สามารถปรับลำกล้องและปากกระบอกปืน ให้สามารถยิงศัตรูในระยะไกลได้

หุ่นผู้กล้าร่างใหญ่ เกิดจากการประกอบร่างของ ดุ๊ค กับไฟเยอร์โรดเดอร์ โดยส่วนหัวของดุ๊ค จะเข้าไปควบคุมอยู่ในส่วนหัวของดุ๊คไฟเยอร์ ถนัดได้การต่อสู้ระยะประชิดด้วยการใช้ดาบ มีความสามารถในการต่อสู้เหนือกว่า เจ-เดกเกอร์พอสมควร แต่ก็จัดว่าเป็นผู้กล้าที่ไว้ใจในฝีมือการต่อสู้ได้เลย โดยเมมโมรี่ที่บรรจุข้อมุลในการประกอบร่างนั้น เรจิน่าได้มอบให้ยูตะไว้ใช้ รหัสในการประกอบร่างคือ “เบรฟอัพ !! ดุ๊คไฟเยอร์”

Posted Image

Rescue Mode
ดุ๊คไฟเยอร์ สามารถแปลงร่างเป็นโหมด ยานพาหนะครึ่งหุ่นยนต์ได้ ซึ่งจะใช้ร่างนี้ก็ต่อเมื่อ ต้องการวิ่งดับไฟและต่อสู้ไปพร้อมๆกัน
ความยาว : 13.16 เมตร
น้ำหนัก : 11.43 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 385 กิโลเมตร / ชั่วโมง


Posted Image

FIRE J-DECKER (พากษ์โดย Furusawa Toru)
ส่วนสูง : 22.3 เมตร
น้ำหนัก : 26.09 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด :520 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ความเร็วในการบินสูงสุด : 6000 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 39800 แรงม้า

Weapon Unit
เบิร์นนิ่งไฟเยอร์ซอร์ด (Burning Fire Sword) : ดาบขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมคืออาวุธหลักของดุ๊คไฟเยอร์ แต่เมื่อพาวเวอร์อัพเป็นไฟเยอร์เจ-เดกเกอร์ ให้ขีดความสามารถของดาบสูงขึ้น ปกติจะเก็บไว้ในฝักที่เอวข้างซ้าย
เจบัสเตอร์ (J-Buster) : ปืนไรเฟิลอาวุธหลักจากร่าง เจ-เดกเกอร์
แม็กซ์แคนนอนโหมด (Fire J-Decker Max Cannon Mode): เป็นการใช้ร่างปืนใหญ่ของ กันแม็กซ์ เป็นอาวุธ

สุดยอดหุ่นรบร่างสมบูรณ์ เกิดจากการประกอบร่างของ เจ-เดกเกอร์ กับ ดุ๊คไฟเยอร์ ตอนแรกนั้น ทาง โทโดะ หัวหน้าวิศวกรของ MPD วิเคราะห์ว่า หากประกอบร่างกันนั้น ไม่เดกการ์ด ก็ดุ๊ค จะต้องมีคนใดคนหนึ่งสูญเสียความทรงจำใน AI ไป ซึ่งสถานการณ์ในช่วงนั้น บังคับ เพราะวิคทิม พึ่งจะดัดแปลงระบบของชีฟเทน ให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งมีทางเดียวที่จะหยุดมันได้คือ ต้องใช้ไฟเยอร์เจ-เดกเกอร์ ยูตะคิดจะลองเสี่ยง แต่เรจิน่า ที่เผยความรู้สึกในใจออกมาว่า เธอนั้นห่วงใยดุ๊คมากแค่ไหน เลยขอร้องให้ยูตะอย่าสั่งรวมร่าง เจ-เดกเกอร์ กับดุ๊คไฟเยอร์ ที่เชื่อมั่นในปาฏิหาริย์ เหมือนกับยูตะ จึงได้รวมร่างกัน และท้ายที่สุด AI ของทั้งสองคนก็ไม่ได้หายไปไหน และก็สามารทำลายชีฟเทนลงได้ในที่สุด



Posted Image

BUILD TEAM
เป็นทีมผู้กล้าที่สามารถแปลงร่างเป็นรถก่อสร้างได้ โดยพวกเขานั้น ถือว่าเป็นรุ่นน้อง และลูกน้องของเดกการ์ด แต่ที่เหมือนกันก็คือ พวกเขาก็ได้รับการบรรจุ AI และหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ในร่างหุ่นยนต์ด้วยเช่นกัน โดยสมาชิกในทีมนั้นมีนิสัยต่างกันสุดกู่เลยทีเดียว


Posted Image

MCCRANE (พากษ์โดย Okiayu Ryutaro)
ตำแหน่ง : หัวหน้าทีม Build Team , หน่วยปราบปรามพิเศษ MPD
รหัสตัวเครื่อง : BP-301
ส่วนสูง : 5.1 เมตร
น้ำหนัก : 5.6 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 83 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 6220 แรงม้า

Vehicle Mode
สามารถแปลงร่างเป็นรถเครน
ความยาว : 6.24 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 6.24 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
ปืนลูกซอง (Shotgun) : ปืนลูกซองขนาดบรรจุ 12 นัดของแมคเครน

ผลงานการออกแบบโดย โทโดะ เขาคือสมาชิกใหม่ของ Brave Police ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม Build Team และบางครั้งก็ทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าและที่ปรึกษาของเดกการ์ดได้ด้วย ตอนแรกยังไม่ได้รับการบรรจุ AI แต่เมื่อได้รับการบรรจุไปแล้วนั้น แมคเครนจะเป็นผู้กล้าที่ใจเย็น วางแผนการได้ดี มีความเป็นผู้นำสูง แต่บางครั้ง เขาก็รู้สึกสับสนเวลาที่เขาได้คุยกับ ซีเอ ซึ่งเขาเองก็เริ่มมีใจให้เธอนั่นเอง อีกทั้งข้อเสียของเขาก็คือ บางครั้งที่เขาไม่สามารถทำหน้าที่ได้สำเร็จ เขามักจะเกิดความเครียดเอาดื้อๆ

อีกทั้ง แมคเครนยังเคยโดนซีเอ จูบที่ริมฝีปากอีกด้วย สำหรับเวลาประกอบร่างเป็นบิลด์ไทเกอร์นั้น แมคเครนจะเป็นส่วนลำตัว ต้นขา แขนขวา และส่วนหัว

Posted Image

POWER JOE (พากษ์โดย Yamazaki Takumi)
ตำแหน่ง : สายตรวจยอดกังฟู
รหัสตัวเครื่อง : BP-302
ส่วนสูง : 5.07 เมตร
น้ำหนัก : 4.79 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 82 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 5970 แรงม้า

Vehicle Mode
สามารถแปลงร่างเป็นรถตักดินได้
ความยาว : 3.18 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 309 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
กระบองนันชาคุ (Nanchaku) : กระบองคู่ติดโซ่ เป็นอาวุธหลักของพาวเวอร์โจ
พลองคู่ทงฟา (Tonfa) : พลองมือเหล็กติดปลายแหลม
ปืนแม็กนั่ม (Magnum) : อาวุธขั้นพื้นฐานที่เหล่าผู้กล้าต้องมี

ผู้กล้าอารมณ์ร้อนประจำทีม บิลด์ทีม สนิทกับพวกเอมิริ มากที่สุด บางครั้งก็ชอบมารับยูตะไปส่งที่โรงเรียน เป็นยอดฝีมือด้านกังฟู ข้อเสียของพาวเวอร์โจคือ ความใจร้อนของเขา ทำให้บางครั้งต้องทะเลาะกับสมาชิกในทีมด้วยกันเอง เคยตกหลุมรักหุ่นพยาบาลสาวรุ่นเก่าตัวหนึ่งชื่อ ลูอา แต่ว่าสิ่งที่พาวเวอร์โจเห็นนั้น อาจจะเกิดจากการถูกควบคุมระบบ AI จากกลุ่มผู้ก่อการร้าย เพราะแท้จริงแล้ว หุ่นพยาบาลสาวที่พาวเวอร์โจหลงรักนั้น เหล่าผู้กล้าคนอื่นเห็นเป็นหุ่นรูปร่างอ้วนๆ พูดไม่ได้อีกต่างหาก แต่พาวเวอร์โจกลับเห็นเป็นหุ่นสาวรูปร่างเพรียว หน้าอกโต พูดได้

เวลาที่เขาประกอบร่างเป็นบิลด์ไทเกอร์นั้น พาวเวอร์โจจะเป็นส่วนแขนซ้าย

Posted Image

DUMPSON (พากษ์โดย Hoshino Mitsuaki)

ตำแหน่ง : สายตรวจจอมพลัง
รหัสตัวเครื่อง : BP-303
ส่วนสูง : 5.03 เมตร
น้ำหนัก : 6.72 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 75 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 7300 แรงม้า

Vehicle Mode
สามารถแปลงร่างเป็นรถบรรทุกได้
ความยาว : 6 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 282 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Weapon Unit
ปืนแม็กนั่ม (Magnum)

ผู้กล้าจอมพลังของทีมบิลด์ทีม มีความแข็งแกร่ง อึด แต่ก็ใจเย็น ยามว่างของเขานั้น เขามักจะออกกำลังด้วยการยกดัมเบลคู่ ด้วยรูปร่างที่ใหญ่กว่าใครเพื่อน เลยมักจะได้รับหน้าที่เป็นหน่วยดับเครื่องชน หรือขนย้ายของหนักๆต่างๆ สนิทกับอายาโกะ นักเขียนอิสระมาก ขนาดที่ว่า ทางเซย์จิมะอนุมัติให้เหล่าผู้กล้าลาหยุดพักผ่อนได้ เขาได้ขอให้โทโดะ ทำร่างขนาดเท่ามนุษย์ แล้วย้าย AI ไปบรรจุ แล้วใส่สูทพร้อมซื้อดอกไม้ไปขออายาโกะออกเดทเลยทีเดียว

ดัมพ์สัน มีวีรกรรมตลกๆให้เห็นบ่อยอย่างเช่น แฝงตัวไปแข่งมวยปล้ำหุ่นยนต์กับยูตะเพื่อสืบหาข่าวคราวการก่อการร้าย (ตอนนี้ ทาง Sunrise จงใจล้อเลียนอนิเมะซีรี่ย์เก่าอย่าง วิหคสายฟ้า กัตช่าแมน โดยให้เหล่าผู้กล้าแต่งตัวไปแข่งมวยปล้ำด้วยชุดคอสเพลย์กัตช่าแมน)

Posted Image

หรือจะเป็นช่วงที่ดัมพ์สัน กับดริลบอย ยังปรับปรุง เช็คสภาพตัวเครื่องไม่เสร็จ โทโดะเลยตัดสินใจเอา AI ของทั้งคู่ไปบรรจุไว้ในร่างขนาดมินิของทั้งคู่แทนชั่วคราว แล้วทั้งคู่ก็ดันเผลอออกไปทัวร์ในเมือง หาทางกลับมา MPD ไม่ได้

เวลาที่ประกอบร่างเป็นบิลด์ไทเกอร์ ดัมพ์สันจะเป็นส่วนขาทั้งสองข้าง

Posted Image

DRILL BOY (พากษ์โดย Yuuki Hiro)
ตำแหน่ง : สายตรวจนักฟุตบอล
รหัสตัวเครื่อง : BP-304
ส่วนสูง : 4.63 เมตร
น้ำหนัก : 3.15 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 75 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงขับเคลื่อนสูงสุด: 7300 แรงม้า

Vehicle Mode
เป็นผู้กล้าประเภท ทริปเปิ้ลเชนจ์เจอร์ สามารถเปลี่ยนร่างได้ 3 รูปแบบคือ ร่างหุ่น ร่างเครื่องเจ็ทหัวสว่าน และดริลแทงค์
Drill Tank Mode
ความยาว : 4.63 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 294 กิโลเมตร / ชั่วโมง (เวลาวิ่งบนพื้น)
54 กิโลเมตร / ชั่วโมง (เวลาวิ่งบนพื้นทราย)
27 กิโลเมตร / ชั่วโมง (เวลาวิ่งบนพื้นที่เป็นหินแข็ง)

Drill Jet Mode
ความยาว : 4.63 เมตร
ความเร็วในการบินสูงสุด : 3270 กิโลเมตร / ชั่วโมง


Weapon Unit
ปืนกลที่ส่วนขา (Machine Gun Legs)
ลูกฟุตบอล (Football)
ลูกฟุตบอลระเบิด (Bomb Football)

น้องใหม่ไฟแรงของบิลด์ทีม ทำอะไรทะเล้นๆเหมือนเด็กๆ บางครั้งก็ดูเหมือนไม่รู้จักโตไหร่นัก แต่เขาเป็นผู้กล้าที่อาศัยเทคนิกการเล่นฟุตบอลอันยอดเยี่ยม มาใช้ในการโจมตีคู่ต่อสู้ วันๆถ้าว่างมาก ก็จะเอาบอลมาเดาะเล่นเป็นประจำ แต่ข้อเสียของดริลบอยคือ ขี้น้อยใจเหมือนเด็กๆ และบางครั้งก็ขี้ลืม

มักจะเป็นคู่หูในการปฏิบัติการร่วมกับดัมพ์สัน และเคยสร้างวีรกรรมสุดฮากับดัมพ์สันมาแล้ว นั่นก็คือ ต้องเอา AI ไปบรรจุในร่างจิ๋วเพราะร่างจริง กำลังเช็คสภาพเครื่องอยู่ ทำหั้งสองคนต้องไปท่องโลกกว้างในเมืองแบบไม่ตั้งตัว

เวลาประกอบร่างเป็น ซูเปอร์บิลด์ไทเกอร์ เขาจะเป็นส่วนหน้าอก ปีก และเท้าทั้งสองข้าง

Posted Image

BUILD TIGER (พากษ์โดย Okiayu Ryutaro)
ส่วนสูง : 18.08 เมตร
น้ำหนัก : 17.11 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 356 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการขับเคลื่อนสูงสุด : 19490 แรงม้า

Weapon Unit
ไทเกอร์ แคนนอน (Tiger Cannon) : ปืนใหญ่ที่เกิดจากการแปลงระบบของหัวเครนที่แขนขวา กลายเป้นปืนใหญ่พลังทำลายสูง

ผู้กล้า 3 ประสาน ที่เกิดจากการรวมร่างของบิลด์ทีม 3 คนคือ แมคเครน , พาวเวอร์โจ และดัมพ์สัน จุดเด่นที่ยูฉะซีรี่ย์ไม่เคยมีก็คือ การนำเอาหัวของเสือโคร่งมาใช้ ซึ่งปกติ เรามักจะเห็นหุ่นยนต์ที่มีหัวสิงโตอยู่ที่หน้าอกมากกว่า ตอนแรกนั้น ทั้ง 3 คนมีปัญหาในเรื่องการรวมใจเป็น 1 เดียวกัน ทำให้เกิดความผิดพลาดในการประกอบร่าง แต่หลังจากที่พวกเขาเรียนรู้ในเรื่อง หัวใจที่ต้องการจะปกป้องคนที่ตัวเองรัก และกำลังใจจากพวก อายาโกะ ซีเอ และ เอมิริ ทำให้บิลด์ทีม สามารถประกอบร่างกันได้ในที่สุด

ตามปกติ หัวใจหลักในการสื่อสาร พูดคุย และวางแผนการ ในร่างบิลด์ไทเกอร์ จะใช้ AI ของแมคเครนในการควบคุม การควบคุมพลังขับเคลื่อน จะใช้ AI ของพาวเวอร์โจ และสุดท้าย การควบคุมทักษะการต่อสู้ทั้งหมด จะใช้ AI ของดัมพ์สันในการควบคุม เรียกได้ว่า บิลด์ไทเกอร์ ได้รวมเอาจุดเด่นของสมาชิกทีมบิลด์ทีมทั้ง 3 ไว้ในตัวเองได้เป็นอย่างดี
รหัสการประกอบร่างก็คือ “เบรฟอัพ !! บิลด์ไทเกอร์ !”

Posted Image

SUPER BUILD TIGER (พากษ์โดย Okiayu Ryutaro)
ส่วนสูง : 21.1 เมตร
น้ำหนัก : 20.26 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 356 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ความเร็วในการบินสูงสุด : 415 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการขับเคลื่อนสูงสุด : 26790 แรงม้า

Weapon Unit
ไทเกอร์ แคนนอน (Tiger Cannon) : ปืนใหญ่ที่เกิดจากการแปลงระบบของหัวเครนที่แขนขวา กลายเป้นปืนใหญ่พลังทำลายสูง
ไทเกอร์บีม (Tiger Beam): เป็นการปล่อยลำแสงออกจากปากเสือโคร่งที่หน้าอก
ไทเกอร์แฟง (Tiger Fang): เป็นท่าร่วมระหว่าง เจ-เดกเกอร์ กับ ซูเปอร์บิลด์ไทเกอร์ โดยเจ-เดกเกอร์ จะใช้เจบัสเตอร์ถ่ายพลังงานเข้าไปในตัวของซูเปอร์บิลด์ไทเกอร์ผ่านปากกระบอก ปืนไทเกอ
ร์แคนนอน ทำให้เกิดลำแสงทำลายล้างพลังสูงที่ยิงออกจากปากเสือโคร่ง
ไทเกอร์กิมเล็ต (Tiger Gimlet): ดูเผินๆเหมือนกันกับ ท่าดราก้อนไฟเยอร์ในไมท์ไกน์ แต่มันเป็นการต่อพ่วง บิลด์ทีมทั้ง 4 คนในร่างยานพาหนะ แล้วหมุนควงสว่านพุ่งเข้ากระแทกศัตรูด้วยความเร็วสูง
บิลด์ครัชเชอร์ (Tiger Crusher)


ร่างพาวเวอร์อัพของบิลด์ไทเกอร์ สามารถบินบนชั้นบรรยากาศได้นานขึ้น ซึ่งเกิดจากการประกอบร่างเพิ่มเข้ากับ ดริลบอย ตอนแรกนั้น ดริลบอยกับรุ่นพี่ในทีมบิลด์ทีมยังไม่ประสานใจกันเท่าไหร่ แต่เหตุเพราะ ต้องการจะช่วยยูตะขึ้นมาจากโลกใต้พิภพให้ได้ พวกเขาจึงสามารถประกอบร่างได้ในที่สุด อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถต่างๆเข้าไปในร่างใหม่นี้อีกด้วย แต่ AI หลักที่ใช้ในการควบคุมความคิดและการพูดคุย ก็ยังใช้ แมคเครนเช่นเดิม

สปายประจำทีม Brave Police

Posted Image

SHADOW MARU (พากษ์โดย Tachiki Fumihiko)
ตำแหน่ง : สปายประจำหน่วย
รหัสตัวเครื่อง : BP 501
ส่วนสูง : 5.4 เมตร
น้ำหนัก : 3.2 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 145 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการขับเคลื่อนสูงสุด : 4620 แรงม้า

Weapon Unit
ดาบนินจา (Ninja Swaord)
Rifle (ปืนไรเฟิลพลังงานสูง)

Vehicle Mode
นอกจากร่างหุ่นยนต์แล้ว ชาโดวมารุ ยังสามารถแปลงร่างได้อีก 5 โหมดด้วยกัน

Car Mode (โหมดรถตำรวจ)
ความยาว : 3.8 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 427 กิโลเมตร / ชั่วโมง
แรงกระโดด : 120 เมตร

Super Sonic Jet Mode (โหมดเครื่องบินเจ็ท)
ความยาว : 4.7 เมตร
ความเร็วสูงสุดในการบิน : 3620 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Tank Mode (โหมดรถถัง)
ความยาว : 5.1 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 328 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Police Dog Mode (โหมดสุนัขตำรวจพันธุ์โดเบอร์แมน)
ความยาว : 3.8 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 427 กิโลเมตร / ชั่วโมง

Brave Cannon (ปืนใหญ่ผู้กล้า เป็นสุดยอดอาวุธสุดท้ายที่เหล่าผู้กล้าใช้ โดยชาโดวมารุ จะแปลงร่างตัวเองเป็นปืนใหญ่ ซึ่งใช้เพียงครั้งเดียวในซีรี่ย์ โดยอาศัยการแบกของผู้กล้าคนอื่นๆในการจะยิงศัตรู และให้เจ-เดกเกอร์เป็นคนเล็งเป้า)

ผู้กล้าที่มีหน้าที่หลักคือ เป็นสปายเข้าไปสืบเสาะในองค์กรพวกอาชญากรรม เวลาเขาจะคาบข่าวมาบอกพวกพ้อง เขามักจะแงะฝ้าเพดานในออฟฟิศของ MPD แล้วกระโดดลงมา ซึ่งยูตะมักจะคอยดุเขาตลอดเวลา โดยชาโดวมารุ จะชอบเรียกยูตะว่า “เจ้านายน้อย” ไม่เหมือนคนอื่นที่เรียกยูตะว่า “บอส”

ชาโดวมารุ คือหุ่นผู้กล้ารุ่นที่ 2 ที่สร้างขึ้นเพ่องานหลักคือการสืบข้อมูล โดยเขามักจะอาศัยวิชานินจาในการต่อสู้เป็นหลัก มีความคล่องแคล่วว่องไว เก่งกาจในวิชาดาบ แต่ไม่ค่อยชอบทำงานเป็นทีมเท่าไหร่นัก เขาสนิทกับอาซุกิ เพราะเคยลุยเดี่ยวเข้าช่วยเธอจาก คาเงโระ หุ่นผู้กล้าที่แปรพักตร์ไปอยู่ฝ่ายอธรรม

Posted Image

KAGERO (พากษ์โดย Nakahara Shigeru)
ตำแหน่ง : -
รหัสตัวเครื่อง : BP 500X
ส่วนสูง : 5.4 เมตร
น้ำหนัก : ไม่ปรากฏ
ความเร็วในการวิ่ง : ไม่ปรากฏ
พลังงานขับเคลื่อนสูงสุด : ไม่ปรากฏ

Vehicle Mode
แปลงร่างได้อีก 2 โหมดคือ
Car Mode (โหมดรถตำรวจ)
Dragon Mode (โหมดมังกรบินสีเขียว)

Weapon Unit
ดาบนินจา (Ninja Sword) : ดาบประจำตัวคาเงโระ

เป็นหุ่นผู้กล้ารุ่นแรก ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสปาย แต่จริงๆแล้ว เป็นชาโดวมารุ ที่ได้ออกทำหน้าที่แทน โดยโทโดะ ตั้งใจจะให้คาเงโระ ปฏิบัติแบบคอยเป็นกำลังเสริมให้กับชาโดวมารุ จะเรียกว่าเป็น เงาของชาโดวมารุก็ไม่ผิด เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมาก่อนหน้าชาโดวมารุ จึงเปรียบเสมือนว่าเขาคือพี่ชายของชาโดวมารุ เพราะหน้าตา และรูปร่างคล้ายกัน แต่ต่างกันเพียงแค่สีกายที่เป็นสีเขียว แต่ชาโดวมารุเป็นสีม่วง แต่พอโครงการสร้างชาโดวมารุใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ คาเงโระได้หนีออกไปจาก MPD อย่างไม่ทราบสาเหตุ และในที่สุด เขาก็ปรากฏตัวออกมาและลักพาตัว อาซุกิไปเป็นตัวประกัน และได้ท้าชาโดวมารุมาดวลดาบกัน เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเขาเองนั้นคือ “ของจริง” และเก่งไม่แพ้ชาโดวมารุ แต่สุดท้าย เขาก็จบชีวิตเพราะพ่ายแพ้กับชาโดวมารุ และบอกกับชาโดวมารุว่า ขอให้ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า และสู้แทนส่วนของเขาด้วย

หน่วยลาดตระเวรของ Brave Police

Posted Image

GUN MAX (พากษ์โดย Makishima Naoki)
ตำแหน่ง : หน่วยลาดตระเวร
รหัสตัวเครื่อง : BP – 601
ส่วนสูง : 5.06 เมตร
น้ำหนัก : 1.86 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 78 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังงานขับเคลื่อนสูงสุด : 1200 แรงม้า

Weapon Unit
ปืนลูกซอง (Shotgun) : ปืนลูกซองขนาดบรรจุ 12 นัด แบบเดียวกันกับแมคเครน

ผู้กล้าที่ทำหน้าที่ลาดตระเวร ถูกถึงมาจากกองตำรวจลาดตระเวร เพื่อมาทำหน้าที่กับหน่วย Brave Police แบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ตอนแรกชอบโชว์เดี่ยวและชอบพูดจาดูถูกพวกเดกการ์ด แต่พอเอาเข้าจริง เขากลับเป็นหุ่นที่ไม่ค่อยมีทักษะการต่อสู้ และความแข็งแกร่งเท่าพวกเดกการ์ด จึงยอมลดธิฐิ ให้พวกเดกการ์ดมาช่วย แต่ก็ยังไม่วาย ยังไม่ยอมเชื่อใจพวกเขามากเท่าที่ควร เดกการ์ดจึงเล่นแรง ถึงขนาดเอากุญแจมือ ใส่ข้อมือกันไบค์กับตัวเดกการ์ดไว้ด้วยกัน แล้วให้ปฏิบัติการคู่กัน เพื่อฝึกกันไบค์ให้ทำงานเป็นทีมเลยทีเดียว จากนั้น เขาจึงร่วมมือกับเหล่าผู้กล้าด้วยความเต็มใจ

Posted Image

GUN BIKE

ความยาว : 6.2 เมตร
น้ำหนัก : 3.906 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 402 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังงานขับเคลื่อนสูงสุด : 5020 แรงม้า

Weapon Unit
Machine Gun Personal (ปืนกลขนาดเล็ก ที่มีไว้ให้คนที่นั่งข้างตัวกันไบค์ เหนี่ยวไกยิง)

เป็นรถมอเตอร์ไซด์รุ่น ฮอนด้าโกล์วิงก์ ขนาดใหญ่ พาหนะหลักของกันแม็กซ์ที่ใช้ในการลาดตระเวร ที่แพ็คด้านข้าง มีค็อกพิทสำหรับให้ยูตะ ลงไปนั่งและใช้ปืนกลขนาดเล็ก ช่วยยิงใส่ศัตรูได้ กันไบค์จะวิ่งมาหากันแม็กซ์ยามที่เขาผิวปาก

Posted Image

GUN MAX ARMOR (พากษ์โดย Makishima Naoki)

ตำแหน่ง : หน่วยลาดตระเวร
รหัสตัวเครื่อง : BP – 601
ส่วนสูง : 5.58 เมตร
น้ำหนัก : 5.766 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 720 กิโลเมตร / ชั่วโมง
ความเร็วในการบินสูงสุด : 78 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังงานขับเคลื่อนสูงสุด : 6220 แรงม้า



Weapon Unit
ปืนลูกซอง (Shotgun) : ปืนลูกซองขนาดบรรจุ 12 นัด แบบเดียวกันกับแมคเครน

ร่างรวมร่างของกันแม็กซ์ กับ กันไบค์ เพิ่มความสามารถในการบิน และการโจมตีด้วยอาวุธหนักมากยิ่งขึ้น และลดข้อด้อยของกันแม็กซ์ตรงที่ ความเปราะบางของบอดี้ออกไปได้บ้าง ทีเด็ดของเขาก็คือ สามารถแปลงร่างเป็นปืนใหญ่ แม็กซ์แคนนอนได้

Posted Image

ผู้กล้าจากสหราชอาณาจักร
เป็นการเล่นมุขของ Sunrise โดยตรง เพราะเป็นการนำเอาหุ่นทีมไดเวอร์ส จาก Yuusha Tokkyu MightGaine มาปัดฝุ่นใหม่ โดยการเปลี่ยนแปลงสี และชื่อใหม่ โดยผู้กล้ากลุ่มนี้ ปฏิบัติงานอยู่กับเรจิน่าที่สก็อตแลนด์ แต่น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นพวกเขาประกอบร่างกัน แต่ตามข้อมูลจากต้นฉบับ พวกเขาสามารถประกอบร่างกันในรูปแบบรถไฟหัวกระสุนแบบเดียวกันกับ ไดเวอร์สทีมได้ ซึ่งเป้นไปได้ว่า อาจจะรวมร่างเป็นหุ่นแบบเดียวการ์ดไดเวอร์ ได้เหมือนกัน แต่พวกเขาก็ถูกทำลายไปในช่วงตอนท้ายๆซีรี่ย์

Posted Image
JOHN BISHOP
แปลงร่างมาจากรถดับเพลิง

Posted Image
PAUL LUKE
แปลงร่างมาจากรถตำรวจ

Posted Image
APPLE KING
แปลงร่างมาจากเครื่องบินเจ็ท

Posted Image
GEORGE PAUL
แปลงร่างมาจากรถถังสว่าน


หุ่นฝ่ายศัตรู

Posted Image
CHIEFTAIN I : 1 ในฝาแฝดหุ่นยนต์ มีบอดี้สีแดง เป็นผู้ที่สังหารเดกการ์ด ถนัดในการใช้ดาบ ภายหลังถูกพาวเวอร์อัพให้เป็น ไฮเปอร์ชีฟเทน I มันฆ่าชีฟเทน II ตามโปรแกรมที่วิคทิมเขียนขึ้นมา และใส่เกราะบอดี้ของชีฟเทน II ทำให้มันตัวใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น แต่ท้ายที่สุด ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับไฟเยอร์เจ-เดกเกอร์

Posted Image
CHIEFTAIN II : ฝาแฝดสีน้ำเงิน ถูกดุ๊กไฟเยอร์สังหาร แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมให้กลายเป็นไฮเปอร์ชีฟเทน II แต่ทว่า มันก็ต้องถูกชีฟเทน I ฆ่าทิ้งเพื่อที่จะได้ประกอบร่างกับชุดเกราะสีน้ำเงินของของมัน ไปรวมร่างกับชีฟเทน I แทน แต่ในช่วงที่ดัน เอเลี่ยนรูปทรงเหมือนดาบที่ สามารถควบคุมระบบสมองของมนุษย์หรือหุ่นได้นั้น กำลังจะพุ่งเข้าทำร้ายไฟเยอร์เจเดกเกอร์ ร่างของชีฟเทน II ที่น่าจะตายไปแล้ว กลับลุกขึ้น แล้วเอามือแทงทะลุดัน เพื่อช่วยไฟเยอร์เจ-เดกเกอร์ จากนั้น เขาจึงตาย

Posted Image
BLACK CHIEFTAIN : หุ่นกองทหารของนูบา ที่สร้างขึ้นเพื่อบุกยึดที่ต่างๆของโลก อาศัยต้นแบบจากชีฟเทนรุ่นแรก ทุกๆตัวสามารถพูดได้ ใช้อาวุธหนักต่างๆได้เป็นอย่างดี

Posted Image
VICTIM : หุ่นยนต์สมองกลร่างสีขาวที่นูบา นำเอาสมองของวิคทิม มาบรรจุไว้ภายใน เพื่อให้โอกาสวิคทิม แก้มือกับเหล่าผู้กล้า แต่ว่าเขาก็ได้กลับใจ และสละชีวิต ทำลาย Mad Mother ยานแม่ของนูบา และอีบา ลงได้ ก่อนที่ซากของเขาจะจมลงสู่ก้นทะเล แต่ดวงจิตของเขานั้นก็ยังไม่ตาย คาเพียเลยมาช่วยปลุกจิตวิญญาณแห่งคุณธรรมของเขาขึ้นมา และทำให้ร่างกายของวิคทิมร่างหุ่นยนต์ฟื้นขึ้นมา และเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นอีกแบบหนึ่ง ก่อนจะเดินทางไปปราบศัตรูในจักรวาลด้วยกัน

จากใจผู้เขียน
ก็นับว่า เขียนมานานหลายวันเลยทีเดียว จัดว่าเรื่องนี้มีเนื้อหาน่าสนใจไม่แพ้เรื่องอื่นๆเลยเหมือนกันครับ แต่คงต้องบอกว่า หลังจากเขียนบทความชิ้นนี้จบ การสอบ GAT PAT ก็จะเริ่มแล้ว และผมคงไมได้เขียนบความเรื่องต่อไปอีกพักใหญ่ ยังไงต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาติชมผลงานของผมด้วยนะครับ

0 Response to "[บทความ] Yuusha Series - Brave Police J-Decker - เปิดตำนานของผู้กล้า - Yuusha Keisatsu J-Decker -"

Posting Komentar