[บทความ] Yuusha Series - Brave of the Legend DA-GARN

จริงๆขอเกริ่นๆ ก่อนจะเริ่มต้นบทความยาวเรื่องนี้ก่อนนะครับ ปกติแล้วก่อนหน้าจะเขียนงานคราวนี้ ผมจะตั้งใจที่จะเขียนบทความ ยูฉะซีรี่ย์โดยเริ่มที่ Taiyo No Yuusha Fighbird ก่อนนะครับ แต่เนื่องจากว่า ผมเริ่มต้นดูไฟร์เบิร์ดได้แค่เพียงแค่ 24 ตอนเท่านั้นเอง และยังเหลือเนื้อเรื่องอีกกว่าครึ่งที่ยังไม่ได้ดู และในเวลานี้ ยูฉะที่ผมมีโอกาสได้ดูตั้งแต่ตอนแรกจนจบซีรี่ย์ ก็มีแค่ ดาการ์น , ไมท์ไกน์ , เจเด็คเกอร์ และกาโอไกการ์เท่านั้นเอง ฉะนั้น ผมขอเริ่มที่ ยูฉะซีรี่ย์ที่ผมมีโอกาสได้ดูเป็นเรื่องแรกในชีวิต และได้ดูจนจบซีรี่ย์ก่อนละกันครับ โดยขอเริ่มต้นตำนานของ หุ่นผู้กล้าลำดับที่ 3 นั่นก็คือ “ดาการ์น” ครับผม

Densetsu No Yuusha Da-Garn เป็นซีรี่ย์หุ่น ยนต์ผู้กล้าลำดับที่ 3 ต่อจากไฟร์เบิร์ด โดยเริ่มต้นแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ อาซาฮี ทางประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1992 (พ.ศ.2535) จนถึงวันที่ 23 มกราคม ปี 1993 ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 46 ตอน โดยออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 17.00 เฉลี่ยเวลาในการออกอากาศตอนละประมาณ 20 นาที และทางประเทศไทยเรา บริษัทวิดีโอในตำนานอย่าง Video Square ก็เคยได้ License มาจัดจำหน่ายในรูปแบบ วิดีโอ VHS จำนวน 23 ม้วนจบ ภายใต้ชื่อ “หุ่นเทพเจ้าดา-การ์น”

 

Posted Image

Staff
Director : Kasuyoshi Yatabe
Series Composition : Fuyonori Gobu , Yasushi Hirano
Screenplay Fuyonori Gobu (10 episodes)
Original Creator : Hajime Yatate
Character Design : Masayuki Hiraoka
Mechanical Design : Kunio Okawara
Broadcaster : Nagoya Broadcasting Network
Production : Sunrise

Main Story
จอมมารจากจักรวาลอันไกลโพ้น “โอบอส” ที่ซึ่งมุ่งหน้าทำลายดวงดาวต่างๆมานับไม่ถ้วน ได้เล็งเป้าหมายการโจมตีครั้งใหม่ของมันคือ ดาวเคราะห์ดวงที่สามในระบบสุริยะจักรวาลที่นามว่า “โลก” มันต้องการจะสำรวจจุดที่เป็นจุดปลดปล่อยพลังงานสำคัญ ที่สามารถจะระเบิดโลกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ ซึ่งพวกมันเรียกว่า “จุดยุทธศาสตร์” และมีอีกเหตุผลหนึ่งที่โอบอสต้องการก็คือ พลังงานลึกลับที่ว่ากันว่า แอบแฝงซ่อนเร้นอยู่ในดวงดาวทุกดวงที่มีสิ่งมีชีวิต พลังงานเร้นลับนั้นเรียกว่า “พลังแห่งดวงดาว” โอบอสจึงส่งลูกน้องกลุ่มแรก เป็นทัพหน้าไปสำรวจโลกก่อนคือ “เรดลอน” ผู้ซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มีจิตใจโหดเหี้ยม และหวังจะเก็บเอาเทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์ต่างๆ มาไว้เป็นของสะสมของตัวเอง

ในขณะที่สถานการณ์บนโลก ทางกองกำลังป้องกันโลกก็สามารถตรวจจับสัญญาณของการบุกรุกของกลุ่มเรดลอนได้ ในเวลานี้ เมืองที่กำลังถูกเป็นเป้าโจมตีอันดับ 1 ก็คือ เมืองมิโดริงาฮามะ ที่ซึ่งตามการคาดการณ์ของเรดลอนแล้ว เมืองนี้ อาจมีจุดที่สามารถจะจุดให้พลังงานของโลกระเบิดออกมาได้ เรดลอนจึงส่ง UFO ที่ซึ่งสามารถเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ ลงมาโจมตีเมืองมิโดริงาฮามะก่อน ซึ่งในช่วงเวลานั้นเอง “ทาคาสุงิ เซย์จิ” เด็กนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนมิโดริงาฮามะ ก็ได้ยินเสียงที่สื่อกับเขาว่า “ขอให้ต่อสู้เพื่อปกป้องโลกนี้ด้วย”

Posted Image

และแล้ว เซย์จิ เด็กหนุ่มผู้แสนจะมุทะลุ ก็ได้ครอบครองอัญมณีที่เป็นต้นกำเนิดพลังงานอันเร้นลับของโลกมาแต่ยุคโบราณ ที่มีนามว่า “โอลิน” และเจ้าสิ่งนี้ก็ได้ปลุกวัตถุที่มีรูปร่างเป็นหินก้อนขนาดเล็ก ที่ซึ่งเรียกว่า “หินแห่งผู้กล้า” และหินก้อนนี้เอง ที่เป็นดวงวิญญาณของเหล่าผู้กล้าในตำนาน หินก้อนดังกล่าวที่ฝังอยู่บนหน้าผากของพระพุทธรูปในวัดโบราณ เมื่อได้รับพลังจากโอลิน ก็ได้พุ่งไปรวมร่างกับรถตำรวจที่จอดอยู่ในบริเวณนั้น และทำให้รถตำรวจคันดังกล่าว กลายร่างเป็นหุ่นยนต์สีน้ำเงิน ที่มีชื่อว่า “ดาการ์น” และก็ได้เข้าต่อสู้กับหุ่นของเรดลอนจนได้รับชัยชนะ เซย์จิได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำของเหล่าผู้กล้า และเริ่มต้นภารกิจในการ ค้นหาเหล่าผู้กล้าอีก 7 คนที่ยังหลับใหลอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลก เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาช่วยกันต่อสู้กับพวก เรดลอน และโอบอส ต่อไป

เซย์จิกับดาการ์น ยังสามารถปลุกผู้กล้าคนใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนในช่วงที่กลุ่มเซเบอร์บาด เจ็บสาหัส ยังพบอีกว่า ศัตรูไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว แต่มีลูกสมุนของโอบอสที่คลั่งไคล้การชุบเลี้ยงสัตว์ประหลาดจาก บุโจ อีกคนหนึ่ง และมี สาวซาดิสต์ที่มีอารมณ์ร้ายอย่าง เลดี้พิงค์ ที่แฝงตัวอยู่ในคณะละครสัตว์อายาชิเซอร์คัส ในเมืองมิโดริงาฮามะอีกด้วย และเมื่อสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น แอฟริกาถูกระเบิดจุดยุทธศาสตร์ก่อนเป็นอับดับแรก ดาการ์นจำเป็นต้องใช้ตัวเองในการฟื้นฟูสภาพของแอฟริกาให้กลับมาดังเดิม และนั่นเองทำให้เซย์จิสามารถปลุกผู้กล้าคนใหม่แห่งคิริมันจาโรขึ้นมาได้อีก หนึ่งคนคือ กาออร์น และก็เป็นผู้กล้าคนใหม่นี่เอง ที่สามารถประกอบร่างกับดาการ์นจนกลายเป็น “เกรทดาการ์น GX” ได้สำเร็จ

เหล่าผู้กล้า รับเซเว่นเชนจ์เจอร์ ซึ่งตอนแรกเป็นหุ่นของฝ่ายโอบอส แต่ที่แท้จริงแล้ว เซเว่นเชนจ์เจอร์ ทำตัวฝักใฝ่กับโอบอส เพื่อที่จะเข้ามาไปสืบความลับในองค์กรของพวกโอบอส โดยมี “ยันจา” อดีตรัชทายาทแห่งดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ถูกโอบอสระเบิดจุดยุทธศาสตร์ทิ้ง เป็นผู้บังคับการเซเว่นเชนจ์เจอร์ ซึ่งตัวพวกเขา ก็เป็นผู้กล้าจากต่างดาวที่มีสัญลักษณ์ “โอลิน” เป็นเครื่องยืนยันเช่นเดียวกับที่เซย์จิมีนั่นเอง

หลังจาก เรดลอน กับวิโอเล็ต บุกเข้าโจมตีหนักขึ้น ดาการ์นซึ่งเสียหายอย่างหนัก ก็ได้รับพลังจาก “พลังแห่งดวงดาว” ซึ่งเกิดจากแรงจิตอธิฐานของมนุษย์ สัตว์ พืช และทุกชีวิตบนโลก ที่ต้องใจรวมเป็นหนึ่งเดียวกันที่อยากจะช่วยโลกให้พ้นจากมหันตภัยครั้งนี้ รวมถึง ดวงจิตของเหล่าผู้กล้าคนอื่นๆที่ ถอดวิญญาณไปรวมร่างกับดาการ์น เพื่อฟื้นฟูร่างที่เสียดาย สามารถกลับมาต่อสู้ได้อีกครั้ง และไปต่อสู้กับโอบอสที่นอกโลก และเมื่อเอาชนะโอบอสได้สำเร็จ ดาการ์นและเหล่าผู้กล้าคนอื่น ก็ได้กล่าวคำลากับเซย์จิ เพื่อที่จะกลับไปจำศีลต่อเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ แม้ว่าใจจะผูกพันแค่ไหน แต่ในเวลานี้ เซย์จิก็ต้องเริ่มต้นสร้างอนาคตของตัวเอง และเติบโตขึ้นไปพร้อมๆกับสายลมที่จะพัดพาชีวิตของเขาไปสู่อนาคตที่สดใสนั่น เอง

Posted Image


Concept of the Work
งานซีรี่ย์นี้ จัดว่าเป็นงานชิ้นที่ 3 ในซีรี่ย์ยูฉะ ซึ่งเริ่มต้นแปลกแนวไปจากสองเรื่องแรกอย่าง เอ็กซ์ไคเซอร์ และ ไฟร์เบิร์ดตรงที่ การปรากฏตัวของหุ่นในเรื่อง มาจากพลังงานบนโลกเอง โดยที่ไม่ได้มาจากอวกาศ แต่ก็ยังอาศัยจุดเดินเรื่องเดิมคือ การเขาสิงยานพาหนะ และที่เพิ่มเติมเข้าไปก็คือ การได้ตัวเอก เป็นเด็กชาวโลกอีกทั้งยังได้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีม และชาวโลกที่เห็นเซย์จิเวลาอยู่ในชุดหัวหน้าทีมผู้กล้า มักจะเรียกเขาว่า “เด็กผู้กล้า” จากงานลักษณะนี้ อาจจะทำให้ดูว่า ความผูกพันของระหว่าง มนุษย์กับหุ่น อาจจะดูด้อยลงไปเพราะ ข้อจำกัดที่เซย์จิกับ เหล่าผู้กล้า เหมือน เจ้านาย-ลูกน้องมากกว่า แต่ก็ยังพอให้เห็นบ้างในบางครั้งที่เซย์จิ แสดงความห่วงใยในตัวเหล่าผู้กล้า (คอนเซ็ปต์นี้ ที่ผู้กล้าเลือกเด็กหนุ่มธรรมดาเป็นหัวหน้า ไปปรากฏอีกครั้งหนึ่งในซีรี่ย์ยูฉะของปี 1995 ที่ชื่อว่า Brave of the gold Goldran)

และที่แปลกใหม่ก็คือ เมื่อซีรี่ย์ดำเนินมาถึงช่วงประมาณกลางเรื่อง เนื้อเรื่องที่ถูกดำเนิน ที่ให้มีเนื้อหาต่อเนื่องเหตุการณ์กันไปตลอดจนกระทั่งจบซีรี่ย์ อาจจะเรียกว่าจบในตอน แต่เหตุการณ์ในเรื่อง ยังคงต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ชวนให้ดูน่าติดตามมากขึ้น อีกทั้ง เนื้อเรื่องยงส่งเสริมเรื่องของการอนุรักษ์ธรรมชาติบนโลก มากกว่าทุกซีรี่ย์ ซึ่งคอนเซ็ปต์ของเรื่อง ก็เน้นที่ พลังงานของโลกที่เป็นแหล่งพลังงานของเหล่าหุ่นยนต์ แม้แต่ร้านอาหารของตัวละครในเรื่องยังเน้นเรื่องที่คุณภาพของอาหารที่ต้อง คัดสรรมาจาก ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และการจะเรียกพลังแห่งดวงดาว ก็ต้องมีเจตจำนงเช่นเดียวกับดาว พืช สัตว์ หากต้องการจะช่วยโลกจริงๆ
อีกจุดหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาจากซีรี่ย์ก่อนหน้านี้ก็คือ การแปรพักตร์ของอดีตศัตรูอย่าง บุโจ เลดี้พิงค์กับวิโอเล็ต มาเข้าพวกกับมนุษย์โลก เพื่อช่วยกันสู้กับโอบอส ซึ่งยังไม่มีเรื่องไหนที่ทำแบบนี้มาก่อน

Product
ช่วงที่ซีรี่ย์นี้แพร่ภาพที่ญี่ปุ่นในปี 1992 ก็ได้มีกระแสในด้านบวก เกี่ยวกับด้านยอดขายของเล่นที่สูงขึ้น เพราะความแปลกใหม่ของ ของเล่นจากชุด ดาการ์นนี่เอง ตรงที่ DX กาออร์น และ DX ไกสต์ 2 คาแร็คเตอร์จากซีรี่ย์นี้ที่มีลูกเล่นในการเคลื่อนไหวผ่านระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นครั้งแรกของ ของเล่นหุ่นยนต์แปลงร่างเหล่านี้ จริงๆจะว่าไปแล้ว ยอดขาย DX Yuusha ของบริษัท TAKARA ก็สูงมาตั้งแต่สมัยที่ ไฟร์เบิร์ด ยังแพร่ภาพ แต่ในความเป็นจริง แม้ว่า ยอดขายของเล่นจากซีรี่ย์ Brave Fighter of the Legend Da-Garn จะสูงแค่ไหน แต่ก็มีของเล่นคู่แข่งที่ตีตลาดขึ้นมาเทียบเท่ากับดาการ์นได้อีกอย่างนั่นก็ คือ ของเล่นจาก ภาพยนตร์แนว Tokusatsu ที่ฉายในปีเดียวกันกับดาการ์นนั่นก็คือ Kyoryuu Sentai Zyurangers หรือที่พวกเรารู้จักกันดีในนามของ “ขบวนการไดโนเสาร์ จูเรนเจอร์” จาก Bandai นั่นเอง



Main Characters
-ฝ่ายมนุษย์


Posted Image

Posted Image
TAKASUGI SEIJI (พากษ์โดย Rika Matsumoto) / เสียงไทยโดย อรุณี นันทิวาส
เกิดวันที่ : 4 มิถุนายน ค.ศ.1982
ราศี : เมถุน
อายุ : 12 ปี
เลือดกรุ๊ป : O
ส่วนสูง : 155 cm. น้ำหนัก : 47 kg.
ระดับการศึกษา : ชั้น ป.5 ห้อง B (ตอนที่ 11 ขึ้นชั้น ป.6)
งานอดิเรก : ต่อโมเดล , เล่นเกม
ความสามารถพิเศษ : , ทำอาหาร (เชี่ยวชาญมาก)
สิ่งที่ชอบ : สาวสวยน่ารักๆ
สิ่งที่เกลียด : ถั่วหมัก (นัตโตะ)
บุคคลที่ชื่นชม : พ่อ (พันเอกทาคาสุงิ)
นิสัยเสีย : ชอบเกาหัว
ความฝัน : นักขับรถแข่ง F-1 , นักบิน , นักเบสบอลอาชีพ

ตัวเอกของเรื่อง เป็นลูกชายคนเดียวของ พันเอกทาคาสุงิ โคอิจิโร่ ของกำลังป้องกันโลก มีแม่เป็นพิธีกรรายการข่าว Morning Scoop ชื่อว่า ซากาโมโตะ (ทาคาสุงิ) มิซุสุ เรียนอยู่ชั้น ป.5 ห้อง B ปกติแล้วเป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อน ร่าเริง ชอบเล่นเกม แต่บางครั้งก็ทำตัวไม่เอาไหน การเรียนก็เรียนแย่ แต่มีข้อดีคือ ทำอาหารได้เก่งมาก เพาะต้องอยู่บ้านคนเดียวค่อนข้างบ่อย มีนิสัยเจ้าชู้ ชอบเหล่ตามองสาวๆที่ถูกสเป็คเป็นประจำ มีนิสัยปากไม่ค่อยดีในบางครั้ง แต่บางครั้ง เขาก็รู้สึกอ่อนไหว เวลาเจอกับสถานการณ์ที่ยากจะแก้ปัญหาได้

เซย์จิ ได้รับเลือกจากโอลิน ให้ทำหน้าที่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ และคอยบัญชาการเหล่าหุ่นผู้กล้า ให้ต่อสู้กับเหล่าหุ่นจากนอกโลก โดยเขาได้ยินเสียงเรียกของโอลิน ภายในวัดโบราณที่อยู่หลังโรงเรียนในช่วงที่หุ่น UFO กำลังตรงเข้าโจมตีเขากับฮิคารุ เพื่อนร่วมชั้น เซย์จิได้พบกับดาการ์น หุ่นผู้กล้าคนแรกที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล และได้เข้าป้องกันเซย์จิจากการโจมตีจากหุ่น UFO หลังจากนั้น เซย์จิก็ได้รับ ไดเรคเตอร์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สีฟ้ารูปร่างเหมือนโทรศัพท์มือถือเปิดฝาได้ เพื่อที่จะไว้ควบคุมออกคำสั่งดาการ์น กับผู้กล้าคนอื่นๆ ในการเข้าต่อสู้กับพวกโอบอส อีกทั้ง ดาการ์นยังมอบชุดสำหรับผู้นำไว้ให้เซย์จิใช้ ชุดดังกล่าวสามารถทนต่อแรงกระแทกได้ และใช้เไว้เพื่อปกปิดหน้าตาที่แท้จริงไม่ให้คนนอกรู้ว่า หัวหน้าจริงๆของดาการ์นคือใคร

ในช่วงท้ายเรื่อง พันเอกทาคาสุงิ พ่อของเซย์จิ ได้ถูกโอบอสพาตัวไป เซย์จิที่สิ้นหวัง คิดว่าพ่อของตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว จึงเริ่มทำตัวปล่อยปละละเลยหน้าที่ จนกระทั่ง ฮิคารุและ แม่ของเซย์จิได้เข้าเตือนสติ เซย์จิจึงนึกถึงภาระหน้าที่ ที่เขาไม่อาจทิ้งได้ เซย์จิจึงกลับมาทำหน้าที่หัวหน้าทีมผู้กล้าอีกครั้ง และนำทีมผู้กล้า ไปชิงตัวพันเอกทาคาสุงิ กลับมาจากดาวโอบอสได้ จากการนำทางของ วิโอเล็ต ที่แปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายมนุษย์โลก ซึ่งบอกข่าวเซย์จิว่า พันเอกทาคาสุงิยังไม่ตาย และถูกจองจำอยู่ในดาวโอบอส ฐานที่มั่นซึ่งเป็นดาวจักรกลขนาดใหญ่ของพวกโอบอส

บางครั้งเซย์จิ ก็ดูมุทะลุเกินไป อย่างเช่น จะไปขอความร่วมมือจากกองกำลังป้องกันโลก ซึ่งมีแกะดำในกองทัพที่คิดจะยึดเอาอำนาจการสั่งการของเซย์จิ ที่มีต่อเหล่าผู้กล้า มาเป็นของตัวเองอย่าง นายพลโอโจ หรือตอนที่ กองกำลังป้องกันโลก สืบความจริงได้ว่า แมนชั่นที่ ยามาโมโตะ พิงค์ เพื่อนร่วมชั้นของเซย์จิ อาศัยอยู่เป็นฐานที่มั่นส่วนหนึ่งของพวกโอบอส ซึ่งเซย์จิไม่เชื่อในการสืบค้นจากแบบแปลนทางโยธาที่กองกำลังป้องกันโลกพบมา ก็พยายามต่อต้านพ่อตัวเอง โดยไม่ดุมูลความจริง สุดท้ายก็ติดกับจนเขาและฮิคารุเกือบแย่

Posted Image

อุปกรณ์ส่วนตัว : Director
เครื่องมือที่สามารถใช้ติดต่อสื่อสารกับพวกดาการ์นได้โดยใช้การเปิดฝาพับ ลักษณะภายนอกเวลายังปิดฝาพับอยู่ ส่วนฝาพับจะมีรูปลักษณ์คล้ายกับส่วนหน้าอกของ ดาการ์นร่างหุ่นยนต์ (เหมือนตรงจุดที่เป็นดาว 6 แฉก ซึ่งเวลาพวกผู้กล้าติดต่อมาหาเซย์จิ ดาว 6 แฉกนี้จะส่งเสียงและจะกระพริบ) และตรงด้านขวาที่เหมือน เครื่องยิงนาปามของดาการ์น เวลาเปิดฝาจะมีโอลินซึ่งฝังอยู่อยู่ที่ส่วนล่างของไดเรคเตอร์ เป็นแหล่งพลังงานหลัก หากจะให้เหล่าผู้กล้าประกอบร่างกัน ลักษณะการติดต่อกับดาการ์น หรือทีมผู้กล้ากลุ่มอื่น จะเปลี่ยนไป โดยถ้าจะติดต่อกับดาการ์น หน้าจอจะกลายเป็นสีแดง
Posted Image

ถ้าติดต่อกับกลุ่มเซเบอร์หน้าจอจะกลายเป็นสีน้ำเงิน

Posted Image

ติดต่อกับกลุ่มแลนด์เดอร์ส จะกลายเป็นสีเขียวมรกต

Posted Image

ส่วนกาออร์น จะมีสีแดงเช่นเดียวกับดาการ์น

Posted Image

Posted Image
KOUSAKA HIKARU (พากษ์โดย Yamauchi Sayuri) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 15 เมษายน ค.ศ.1982
ราศี : เมษ
อายุ : 12 ปี
เลือดกรุ๊ป : O
ส่วนสูง : 155 cm. น้ำหนัก : ความลับ
ระดับการศึกษา : ชั้น ป.5 ห้อง B (ตอนที่ 11 ขึ้นชั้น ป.6)
งานอดิเรก : แต่งหน้าขนมเค้ก
ความสามรถพิเศษ : เล่นเทนนิส (เชี่ยวชาญมาก)
สิ่งที่ชอบ : ชายที่มีลักษณะดูอบอุ่น พึ่งพาได้
สิ่งที่เกลียด : กบ และ งู
บุคคลที่ชื่นชม : พ่อแม่
นิสัยเสีย : ชอบพูดตะคอกเสียงดัง ใจร้อน ห้าวเหมือนทอม
ความฝัน : สืบทอดกิจการร้านอาหารธรรมชาติของพ่อแม่ และแต่งงานชายหนุ่มในดวงใจ

เป็นเพื่อนสนิทของเซย์จิ เป็นลูกสาวของข้าวของร้านอาหารธรรมชาติ “หางม้า” ที่อยู่ข้างบ้านของเซย์จิ จมูกยาว หน้าตาคล้ายแม่นิสัยดูแก่นๆ ห้าวๆ คล้ายทอมบอย เรียนเก่งขนาดได้เกียรตินิยมเป็นประจำ คอยเอาใจใส่เซย์จิตลอด คอยทำขนม มาคอยทำความสะอาดให้ที่บ้านเซย์จิเป็นประจำ บางครั้งฮิคารุก็ทำตัวหึงเซย์จิ เพราะมีใจชอบเซย์จิอยู่นิดๆ หลงใหลในความกล้าหาญของ หัวหน้าทีมของดาการ์น (เซย์จิ) เพราะเข้ามาช่วยชีวิตเธอบ่อยๆ แต่ภายหลังก็มารู้ความจริงว่า หัวหน้าของพวกดาการ์น ก็คือเซย์จินั่นเอง

Posted Image

SAKURAKOJI HOTARU (พากษ์โดย Yuri Shiratori) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 27 กันยายน ค.ศ.1982
ราศี : ตุลย์
อายุ : 12 ปี
เลือดกรุ๊ป : ไม่ระบุ
ส่วนสูง : 152 cm. น้ำหนัก : 40.5 kg.
ระดับการศึกษา : ชั้น ป.5 ห้อง B (ตอนที่ 11 ขึ้นชั้น ป.6)
งานอดิเรก : ชอบคุยกับสิ่งมีชีวิตตามสวนตามป่า
สิ่งที่ชอบ : ได้เข้าสู่โลกของธรรมชาติ
สิ่งที่เกลียด : ฝูงชนที่รวมกลุ่มกันเยอะๆ
บุคคลที่ชื่นชม : ไม่มี
นิสัยเสีย : ไม่มี
ความฝัน : ไม่มี

ลูกสาวของตระกูล ซากุระโคจิ ตระกูลเก่าแก่ประจำเมืองมิโดริงาฮามะ เป็นเด็กสาวที่มีนิสัยเงียบๆ ไม่ค่อยพูด มีร่างกายอ่อนแอ มีความสามารถพิเศษคือสามารถสื่อสารกับเหล่า พืชพรรณ สรรพสัตว์ วัตถุบางสิ่ง และแผ่นดินได้ อีกทั้งยังรับรู้ถึงภัยร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเหล่าผู้กล้า จึงพยายามคอยเตือนเซย์จิอยู่เสมอ ว่าให้ระวังภัย จริงๆแล้ว เธอรับรู้มานานแล้วว่า เซย์จิคือหัวหน้าทีมผู้กล้า บ่อยครั้งที่เมื่อเธอรับรู้ถึงภัยร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลกหรือพวกผู้ กล้า เธอมักจะหมดสติไป ปกติจะอาศัยอยู่กับ พี่เลี้ยงซึ่งเป็นหญิงชราเพียงแค่สองคน ในบ้านทรงญี่ปุ่นย้อนยุคในพื้นที่รอบรั้วขนาดใหญ่ เธอมีส่วนสำคัญที่ชี้นำทางให้เซย์จิ ไปปลุกหินแห่งผู้กล้าที่เป็นส่วนของวิญญาณของผู้กล้า ทีมแลนด์เดอร์ส 2 คน คือ บิ๊กแลนเดอร์ส และ ดริลแลนเดอร์ส ที่ออสเตรเลีย และอีกครั้งหนึ่งก็คือไปพบกับ ฮอว์คเซเบอร์ ผู้กล้าคนใหม่ที่ตื่นขึ้นมาเพื่อช่วยกู้สถานการณ์ในช่วงที่สกายเซเบอร์หมด พลัง เธอรับรู้ได้ถึง “ถ้อยคำในตำนาน” ที่จะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้ โลกปลดปล่อย “พลังแห่งดวงดาว” ออกมาเพื่อช่วยโลก

Posted Image
NEMOTO TADASHI (พากษ์โดย Satoshi Shimada) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
เกิดวันที่ : 3 พฤศจิกายน ค.ศ.1970
อายุ : 24 ปี
เลือดกรุ๊ป : O
ส่วนสูง : 180 cm. น้ำหนัก : 72 kg.
ระดับการศึกษา : จบจากโรงเรียนตำรวจ ปัจจุบันเป็นตำรวจอยู่ที่ป้อมตำรวจใกล้บ้านของเซย์จิ
งานอดิเรก : ทำสวน
ความสามารถพิเศษ : ควงกระบอง
สิ่งที่ชอบ : คนที่ทำอาหารเก่งและนิสัยดี
สิ่งที่เกลียด : ผี
บุคคลที่ชื่นชม : มิโตะ โคมอน (คาแร็คเตอร์จากซีรี่ย์เรื่องยาวแนว ดราม่า-พีเรียดของญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงออกอากาศอยู่)
นิสัยเสีย : ชอบเลียดินสอ
ความฝัน : ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายตำรวจอยู่กรมตำรวจใหญ่ของญี่ปุ่น

นายตำรวจหนุ่มนิสัยดีประจำเมืองที่พวกเซย์จิ อาศัยอยู่ เป็นคนร่าเริง จริงจังกับการงานหน้าที่มาก เดิมเป็นคนมาจากต่างจังหวัด เติบโตมาจากหมู่บ้านมิซาโตะ มีแม่ชื่อ เนโมโตะ คิยุ ซึ่งเป็นเกษตรกรที่แข็งแรงชนิดยกวัวตัวเดียวขึ้นหลังได้สบายๆ ส่วนพ่อเป็นนายตำรวจเก่า เสียชีวิตไปแล้ว จบจากโรงเรียนตำรวจ และได้มาประจำการที่ป้อมตำรวจใกล้บ้านของเซย์จิกับฮิคารุ มักจะมากินอาหารที่ร้านของฮิคารุเป็นประจำ เพราะชอบที่แม่ของฮิคารุทำอาหารเก่งและใจดี แต่บางครั้งก็ทำตัวเปิ่นๆ โดนพวกเซย์จิแกล้งเป็นประจำ มักจะตกใจแทบช็อคเป็นประจำเมื่อพบว่า รถตำรวจประจำตำแหน่งที่เขาเรียกว่า “ฉลามบก” หายไปเป็นประจำแทบทุกวัน ซึ่งเหตุผลที่หายไปก็เพราะว่า รถตำรวจประจำตำแหน่งของเขาก็คือ ดาการ์น นั่นเอง และเนโมโตะ มักจะเป็นที่ดวงซวยเป็นประจำ เพราะโดนลูกหลงจากการโจมตีของพวกเรดลอน หรือ บุคโจอยู่บ่อยๆ

Posted Image

YANCHAR (พากษ์โดย Urara Takano) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 32 มกราคม ปี อวกาศที่ 18 428
อายุ : 11 ปี
เลือดกรุ๊ป : O
ส่วนสูง : 140.5 cm. น้ำหนัก : 38 kg.
งานอดิเรก : เดินเที่ยวสำรวจเมืองมิโดริงาฮามะ
ความสามารถพิเศษ : ใช้แส้ลงโทษได้คล่อง
สิ่งที่ชอบ : คนที่ทำอาหารเก่งและนิสัยดี
สิ่งที่เกลียด : ค้างคาว และเกลียดพริกหยวกเป็นอย่างมาก
บุคคลที่ชื่นชม : พ่อแม่
นิสัยเสีย : ขี้แย บางครั้งก็ตื่นเต้นอะไรจนเกินกว่าเหตุ
ความฝัน : ทำลายโอบอสล้างแค้นให้ดาวบ้านเกิดได้สำเร็จ

ปรากฏตัวออกมาตั้งแต่ตอนที่ 29 ชื่อจริงของเขาคือ “แจ็ค สตาร์เร็ท ชิอุซุ แห่งกาแล็คซี่กรีนที่ 14” เป็นรัชทายาทแห่งดาว Wilder ซึ่งถูกโอบอสโจมตี และระเบิดจุดยุทธศาสตร์จนพินาศ เขาได้พบกับโอลินแห่งดาวบ้านเกิดของเขาในระหว่างที่ หลบหนีออกมาจากพระราชวังพร้อมกับ มิคุระ นายทหารคนสนิทของพระราชา และก็เป็นยันจานี่เอง ที่สามารถปลุก ผู้กล้าแห่งดาว Wilder อย่าง “เซเว่นเชนจ์เจอร์” ออกมาได้ และเซเว่นเชนจ์เจอร์ ก็ได้รับใช้ยันจา พายันจาหนีออกมาจากดาวได้ทันก่อนที่ดาวจะระเบิด ตลอดเวลาที่เซเว่นเชนจ์เจอร์ เข้าไปสืบข้อมูลในกลุ่มของพวกโอบอส หรือแม้แต่สู้กับพวกดาการ์น ยันจาเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องบังคับการภายในตัวเซเว่นเชนจ์เจอร์มาโดยยตลอด จนไม่มีใครรู้ว่า ในตัวเซเว่นเชนจ์เจอร์ มีเด็กหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับหัวหน้าของพวกดาการ์นคอยบัญชาการอยู่ภายใน

ยันจาเป็นผู้ที่รอบรู้ประวัติศาสตร์ของอวกาศและของโลกมากพอสมควร แต่ก็เป็นคนปากไว มีนิสัยคล้ายๆกับเซย์จิ และหลังจากที่ดาการ์นสามารถประกอบร่างกับกาออร์น กลายเป็น”เกรทดาการ์น GX” ยันจาเริ่มเห็นทางที่จะสามารถต่อสู้กับโอบอสได้ จึงพยายามเข้าหา และติดต่อกับเซย์จิ เพื่อจะชวนให้ร่วมมือ และพยายามบอกว่า ที่เซเว่นเชนจ์เจอร์ สู้กับพวกดาการ์น ก็เพราะเป็นแค่ฉากบังหน้า ที่จริง เขากับเซเว่นเชนจ์เจอร์กับกำลังเก็บข้อมูล ทำหน้าที่เป็นสปายลับอยู่ในกลุ่มพวกโอบอสเพื่อหาวิธีจัดการกับมัน หลายๆครั้งที่ยันจา มีเรื่องกับเซย์จิเพราะความไม่เข้าใจกัน แต่สุดท้าย ทั้งสองคนก็แท็คทีมด้วยกันได้เป็นอย่างดี และยันจา มักจะมาอาศัยอยู่ที่บ้านเซย์จิเป็นประจำ เพราะแม่ของเซย์จิ เอ็นดูยันจามาก

ยันจานับถือพ่อและแม่ของเซย์จิ เพราะลักษณะนิสัยเหมือนกับพ่อแม่ผู้ล่วงลับของเขา อีกทั้ง ยันจานี่เองเป็นชายที่ได้จูบแรกของฮิคารุโดยไม่ได้ตั้งใจ

อุปกรณ์ส่วนตัว : Director
อุปกรณ์สื่อสารของยันจา ที่มีระบบการใช้งานคล้ายกับไดเรคเตอร์ของเซย์จิ แต่ของยันจา เป็นสีเขียว และฝาเปิด มีลักษณะคล้ายกับ ครีบที่หน้าออกของเซเว่นเชนจ์เจอร์ ใช้ออกคำสั่งเซเว่นเชนจ์เจอร์และติดต่อกับเซย์จิ


Posted Image
TAKASUGI KOUICHIRO (พากษ์โดย Kazuhiko Kishino) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
เกิดวันที่ : 30 สิงหาคม
อายุ : 47 ปี
เลือดกรุ๊ป : B
ส่วนสูง : 183 cm. น้ำหนัก : 81 kg.
งานอดิเรก : อาบน้ำ
ความสามารถพิเศษ : เคนโด้
สิ่งที่ชอบ : ภรรยา
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
บุคคลที่ชื่นชม : มิยาโมโตะ มุซาชิ
นิสัยเสีย : นอนโดยไม่ดูสถานที่ว่าจะรกจะเละแค่ไหน
ความฝัน : ต้องการให้โลกปราศจากความเผด็จการของทหาร

พ่อของเซย์จิ เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน เป็นนายทหารยศพันเอก ประจำการอยู่ที่ กองกำลังป้องกันโลก ที่ออสเตรเลีย นานๆถึงจะบินกลับมาญี่ปุ่นซักครั้งหนึ่ง จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่นัก แต่เป็นคนที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ หรือจะระดับโลกเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นหัวแรงใหญ่ในการที่จะโจมตีต่อต้านการรุกรานของพวกโอบอส รักเซย์จิมาก และคอยสั่งสอนให้ลูกมีความกล้าหาญเสมอ มักจะพูดกัดฝ่ายตรงข้ามอย่างมีเหลี่ยม ก่อนจะเผยความฮาในการเฉลยปริศนาที่ชวนวกวนให้คู่ต่อสู้ได้เห็นเป็นประจำ

เขาเคยขอให้หัวหน้าของดาการ์น (เซย์จิ) ให้ร่วมมือกับกองกำลังป้องกันโลก และได้เดินทางไปเจรจาสันติกับโอบอสด้วยตัวเองพร้อมๆกับดาการ์น แต่พลาดท่า ถูกจับหลังจากได้ช่วยเหลือเซย์จิให้หนีรอดไปพร้อมกับดาการ์น หลังจากนั้นเขาก็ถูกจองจำอยู่ในดาวโอบอส แต่สุดท้าย เซย์จิก็มาช่วยหนีออกไปได้ในที่สุด

พันเอกทาคาสุงิ มีท่าประจำตัวที่มักจะเห็นเป็นประจำคือ ท่าโพสท่าชูสองนิ้ว

Posted Image

SAKAMOTO (TAKASUGI) MIZUSU (พากษ์โดย Rei Igarashi) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 20 กุมภาพันธ์
อายุ : 38 ปี
เลือดกรุ๊ป : O
ส่วนสูง : 178 cm. น้ำหนัก : ความลับ
งานอดิเรก : อ่านหนังสือ
ความสามารถพิเศษ : ร้องคาราโอเกะ
สิ่งที่ชอบ : สามี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
นิสัยเสีย : ชอบกัดเล็บตัวเอง , ทำอาหารไม่เป็น
ความฝัน : อยากท่องเที่ยวไปรอบๆโลก

แม่ของเซย์จิ เป็นพิธีกรในรายการข่าวยามเช้า “Morning Scoop” มีนิสัยเฮี้ยบ เข้มงวดมาก ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เข้าใจผิดคิดว่าเซย์จิเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง เลยปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวได้ (จริงๆแล้วไม่ใช่เลย) แต่ก็รักและเป็นห่วงเซย์จิมาก ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกห่วงใยสามีอยู่เสมอ มีฝีมือในการทำอาหารได้แย่มากๆ


Posted Image
KOUSAKA HARUO (พากษ์โดย Yoshio Kawai) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
เกิดวันที่ : 21 ธันวาคม
เลือดกรุ๊ป : A

พ่อของฮิคารุ เป็นเจ้าของร้านอาหารธรรมชาติ “หางม้า” ที่ต้องผ่อนส่งธนาคารอีกถึง 27 ปี อยู่ข้างบ้านเซย์จิ เป็นคนอัธยาศัยดี อดีตมนุษย์เงินเดือน รักภรรยาและลูกสาวมากพอๆกับที่รักธรรมชาติ บางครั้งก็ไม่คิดเงินค่าอาหารเซย์จิ หรือเนโมโตะด้วยซ้ำ

Posted Image
KOUSAKA TSUKUSHI (Yuko Sasaki) / เสียงไทยโดย อรุณี นันทิวาส
เกิดวันที่ : 29 กรกฎาคม
เลือดกรุ๊ป : O

คุณแม่ผู้ใจดีของฮิคารุ แต่มีนิสัย แอ๊บแบ๊ว เพี้ยนๆนิดๆ มองโลกในแง่ดีเกินกว่าเหตุ เดิมทีเป็นลูกสาวเศรษฐีนีจากบ้านทุ่งแต่ตัดสินใจย้ายบ้านมาอยู่กับสามีที่มิ โดริงาฮามะ และเปิดร้านอาหารธรรมชาติอยู่ที่นี่ เพราะแม่ของเธอไม่ชอบลูกเขยอย่างแรง


Posted Image
ผู้ดูแลบ้านตระกูลซากุระโคจิ (พากษ์โดย Masumi Gotoh) / เสียงไทยโดย อรุณี นันทิวาส
เป็นหญิงชราที่อยู่ดูแลคนในตระกูลซากุระโคจิมาโดยตลอด รักและห่วงใย โฮตารุมาก ถึงขนาดคอยกันที่คิดมาจีบโฮตารุชนิดสู้ตายถวายหัว
อุปกรณ์ส่วนตัว : ง้าว



Posted Image

COLONEL GOJO (พากษ์โดย Osamu Ichikawa) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร


เป็นนายทหารยศพันเอกของกองกำลังป้องกันโลกเช่นเดียวกับ พันเอกทาคาสุงิ แต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ ชอบใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ เผด็จการ พยายามจะแย่งอำนาจการสั่งการของดาการ์นมาจากเซย์จิ และพยายามค้นหาใบหน้าที่แท้จริงของหัวหน้าของดาการ์น มักจะมีเรื่องโต้เถียงกับ พันเอกทาคาสุงิเป็นประจำ



-ฝ่ายศัตรู

Posted Image

OHBOSU (พากษ์โดย Koichi Chiba) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร

มารร้าย ศัตรูที่แท้จริง เป็นหัวหน้าของพวกต่างดาว ที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ถือกำเนิดจักรวาล ไล่ทำลายดวงดาวต่างๆมามากมาย ตัวจริงของโอบอสเป็นใคร แม้แต่ลูกน้องคนสนิทอย่าง วิโอเล็ตก็ยังไม่รู้ มันทำลายดาวบ้านเกิดของยันจาลงอย่างโหดเหี้ยม เพียงเพราะความสนุกของมันมันมีจุดประสงค์คือ ค้นหาแหล่งจุดยุทธศาสตร์ของโลก พลังชีวิตของมัน ใกล้เคียงกับความเ)นอมตะ และค้นหา “พลังแห่งดวงดาว” ร่างของมันก็คือ ดวงดาวจักรกลขนาดใหญ่ แต่ภายหลัง มันก็พ่ายแพ้ให้กับดาการ์น ที่ได้ครอบครองพลังแห่งดวงดาว จนระเบิดหายไปจากจักรวาลชั่วนิรันดร์

ปกติเวลาที่มันจะพูดคุยกับใคร มันจะปรากฏตัวออกมาในรูปของ ใบหน้าของมนุษย์ที่ดูน่ากลัว และอยู่สภาพเวลาคล้ายๆกับเวลาท้องฟ้ากำลังครึ้มฝน และฟ้าร้อง (ปรากฏร่างแบบนี้เป็นครั้งแรกในตอนที่ 11)

Posted Image

REDLONE (พากษ์โดย Ikuya Sawaki) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร

ส่วนสูง : 191 cm.
งานอดิเรก : เก็บสะสมวัตถุที่เป็นเครื่องจักรกล
ความสามารถพิเศษ : สร้างเครื่องจักรกล
นิสัยเสีย : เมื่อพ่ายแพ้มักจะฆ่าหุ่นลูกสมุน
ความฝัน : เก็บสะสมเทคโนโลยีด้านจักรกลจากทั่วจักรวาล

เป็นศัตรูคนแรกที่ดาการ์นได้ต่อสู้ด้วย มันเป็นหัวหน้ากลุ่มแรกที่โอบอส ส่งมาเก็บรวบรวมข้อมูลและเริ่มต้นค้นหาจุดยุทธศาสตร์บนโลก มีบริวารเป็นหุ่นยนต์น้อยใหญ่ประมาณกองทัพย่อมๆได้ มีนิสัยโหดเหี้ยม ชอบที่จะเก้บสะสมเครื่องจักรต่างๆบนโลกไว้เป็นของสะสมของตัวเอง (เคยคิดจะเอารถแข่ง F-1 สีเหลืองมาเป็นของสะสม แต่สุดท้ายรถแข่งคันดังกล่าว ก็ได้รับพลังจากดวงวิญญาณของผู้กล้า ทำให้กลายสภาพเป็น แมช แลนเดอร์ส หุ่นผู้กล้าในกลุ่มแลนเดอร์สไป) พ่ายแพ้ดาการ์นอย่างย่อยยับในตอนที่ 10 จึงถูกวิโอเล็ตลงโทษ และนำไปดัดแปลงเป็นไซบอร์ก แต่ก่อนหน้าที่จะถูกลงโทษนั้น เรดลอนได้ปล่อย “เรดลอนอายส์” ซึ่งเป็นเครื่องสำรวจค้นหาจุดยุทธศาสตร์ กระจายไปทั่วทุกมุมโลก และภายหลัง เครื่องดังกล่าวก็กลายเป็นเบาะแสในการทำลายจุดยุทธศาสตร์ที่แอฟริกา ในยุคที่วิโอเล็ต มาเป็นผู้นำกลุ่มต่างดาวแทน

ภายหลังถูกดัดแปลงเป็นไซบอร์ก (ตอนที่ 30) มีอาวุธจากดาบเลเซอร์ กลายเป็นมือเลเซอร์ที่แขนกลข้างซ้ายแทน อีกทั้ง ยังได้เป็นนักบินหุ่นยนต์ที่มีความแข็งแกร่ง ที่สามารถแปลงร่างเป็นทั้งร่างมนุษย์ ร่างไดโนเสาร์ และร่างยานรบอย่าง “เรดไกสต์” อีกด้วย แต่สุดท้ายในตอนที่ 46 เรดลอนได้ใช้เรดไกสต์ ดวลกับเซเว่นเชนจ์เจอร์ที่ยอมสละตัวเอง ทำลายเรดลอน จนสุดท้ายก็จบชีวิตทั้งคู่

Posted Image

หุ่นนักวิชาการ – ลูกน้องมือขวาของเรดลอน (พากษ์โดย Kazuhiko Kishino) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน


เป็นหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการวางแผนการรบของเรดลอน หน้าตาคล้ายๆ อัลฟ่าจากซีรี่ย์ “Power Rangers”

เป็นหุ่นปากมาก ยืดคอได้ ชอบประจบสอพลอเรดลอน แต่ทุกครั้งที่พ่ายแพ้พวกดาการ์น มันก็มักจะโดนเรดลอน เอาดาบเลเซอร์ฟันจนขาดเป็นสองซีกทุกครั้ง แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมโดยการใช้เศษเหล็ก และปูนปลาสเตอร์ปะสองซีกเข้าด้วยกันแทบทุกตอน ช่วงแรกๆ ลักษณะบอดี้ จะเป็นสีขาวและสีเหลือง แต่หลังจากที่เรดลอนถูกจับและโดนลงโทษดัดแปลงเป็นไซบอร์ก มันก็โดนดัดแปลง โดยปกติจะเป็นหุ่นผู้ช่วยเรดลอน ในค็อกพิทของเรดไกสต์ แต่โดนตัดเอาฟังก์ชั่นการพูดสนทนาออกไป แต่เวลาที่มันจะสื่อสารกับเรดลอน มันจะใช้ภาษาเครื่องจักรกล สื่อสารกับเรดลอน ฉะนั้น คนที่สามารถฟังมันได้ว่ามันจะพูดอะไร จึงมีแต่เรดลอนในร่างไซบอร์กเท่านั้น

Posted Image

BUTCHO (พากษ์โดย KOZO SHIOYA) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : ไม่แน่นอน เพราะร่างกายสามารถยืดหดได้
งานอดิเรก : ฝึกสัตว์เลี้ยงในโรงละครสัตว์
ความสามารถพิเศษ : สร้างสัตว์ประหลาดติดอาวุธ
สิ่งที่ชอบ : โฮตารุ
สิ่งที่เกลียด : ตุ๊กตาฝรั่งเศส (ร่างตัวแทนของเลดี้พิงกี้)
ความฝัน : เป็นราชาของโลกที่มีแต่สัตว์ประหลาดที่ตัวเองสร้าง

หัวหน้าพวกโอบอส ที่โอบอสส่งมาทำหน้าที่แทนเรดลอน ที่แพ้พวกดาการ์น แต่เป็นพวกทหารชั้นต่ำ รูปร่างใหญ่โตอัปลักษณ์ กายเป็นสีเขียว มีแต่พละกำลัง ไม่มีสมองคิดมากเท่าไหร่ ชอบพัฒนาสัตว์ชีวะ ที่ติดอาวุธหนัก พูดสำเนียงคันไซ จริงๆเป็นคนรักสัตว์ มักจะคิดชื่อสัตว์ประหลาดที่ตัวเองสร้างเป็นภาษาฝรั่งทุกตัว หลงรักโฮตารุ เพราะคิดว่าโฮตารุเป็นมนุษย์ที่มีนิสัยเมตตา ปกติบุคโจ จะทำงานเป็นหัวหน้าคณะละครสัตว์ “อายาชิเซอร์คัส” หรือแปลตรงๆก็คือ “มีพิรุธ” ซึ่งพวกเซย์จิมักจะเข้าไปชมการแสดงบ่อยๆ และมันจะอยู่ในร่างมนุษย์ร่างเตี้ยๆ จมูกโต แต่ผิวขาวในชื่อว่า “เดนโจ” พยายามค้นหาตัวจริงของหัวหน้าของพวกดาการ์น ภายหลังก็พ่ายแพ้ให้กับพวกดาการ์น และถูกวิโอเล็ตผ่าตัดแบ่งให้กลายเป็น 8 คน

ชีวิตในวัยเด็ก ค่อนข้างน่าสงสาร เพราะด้วยรูปร่างที่น่าเกลียด ทำให้เขาถูกครอบครัวทิ้ง จึงหันไปฝักใฝ่กับพวกโอบอส แต่ภายหลัง 1 ใน 8 ของบุคโจ สามารถกลับใจได้ และเริ่มมีความสนิทสนมกับพวกเซย์จิมากขึ้น อีกทั้ง ซึ้งในน้ำใจ และมิตรภาพของพวกดาการ์น ทำให้ บุคโจทั้ง 8 สามารถรวมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และย้ายมาเป็นพวกเดียวกับเซย์จิ

ในตอนที่ 46 บุคโจทั้ง 8 มีส่วนในการช่วยทำลายเครื่องเจาะหาจุดยุทธศาสตร์ แต่ก็โดน ไคอัน ทำลายทิ้ง แต่ก็ยังรอดมาได้ 1 คน

Posted Image
MAGICAL PINKY (พากษ์โดย Yumi Touma) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
ส่วนสูง : 180 cm.
สิ่งที่ชอบ : สีชมพู
นักแสดงผาดโผนประจำคระละครสัตว์อายาชิเซอร์คัส หน้าตาสวย หุ่นดี ซึ่งเซย์จิแอบชอบอยู่ มีน้องสาวคือ ยามาโมโตะ พิงค์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่ของเซย์จิตอนขึ้นชั้น ป.6 ในตอนที่ 11 หลังจากดาการ์นบุกทำลายยานแม่ของบุคโจได้สำเร็จ เธอก็ได้ย้ายมาทำงานพิเศษที่ร้านอาหารของฮิคารุ แต่จริงๆแล้ว เธอกับ ยามาโมโตะ พิงค์ คือคนๆเดียวกัน เป็นหัวหน้าของบุคโจอีกทีหนึ่ง

Posted Image

YAMAMOTO PINK (พากษ์โดย Yumi Touma) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 18 เมษายน
อายุ : 12 ปี
เลือดกรุ๊ป : AB
ส่วนสูง : 138 cm. น้ำหนัก : ความลับ
งานอดิเรก : อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องธรณีวิทยา
ความสามารถพิเศษ : ร้องเพลง
บุคคลที่ชื่นชม : พี่สาว
สิ่งที่ชอบ : ผู้ชายแข็งแรง เท่ห์ๆ
สิ่งที่เกลียด : แตงกวา , ตัวทาก , แมลงสาบ
นิสัยเสีย : ชอบให้ท่าผู้ชาย
ความฝัน : อยากเป็นราชินีของโลก

สาวน้อยดาวโรงเรียนคนใหม่ที่ย้ายกลับมาจากอเมริกา และมาเป็นเพื่อนร่วมชั้น ป.6 กับพวกเซย์จิ มีรูปร่างที่เซ็กซี่ ถึงขนาดพวกเซย์จิ ยกให้เป็น มาดอนน่าของโรงเรียนเลยทีเดียว มีพี่สาวคือพิงค์กี้ (เมจิคัล พิงค์กี้) จริงๆแล้ว เธอก็คือ ร่างแปลงอีกร่างหนึ่งของหัวหน้าของบุคโจ ที่แฝงตัวมาเป็นนักเรียนเพื่อตามหาหัวหน้าของพวกดาการ์นที่อาจจะอยู่ใน โรงเรียนนี้

จริงๆแล้ว เธอเคยแสดงอาการหลุดที่ว่าจริงๆตัวเองเป็นใครมาหลายครั้ง แต่ก็รีบแก้ต่างได้ทัน ชอบให้ท่าเซย์จิ


Posted Image
LADY PINKY (พากษ์โดย Yumi Touma) / เสียงไทยโดย วิภาดา จตุยศพร
เกิดวันที่ : 18 เมษายน
อายุ : ไม่ปรากฏ
เลือดกรุ๊ป : B
ส่วนสูง : 180 cm. น้ำหนัก : 52 kg.
งานอดิเรก : ชิมอาหารหรือไวน์
ความสามารถพิเศษ : เล่นอะไรผาดโผนได้คล่อง
บุคคลที่ชื่นชม : คลีโอพัตรา
สิ่งที่ชอบ : กามเทพ
สิ่งที่เกลียด : ไขมันอุดตัน , รอยตีนกา
นิสัยเสีย : ความไม่เด็ดขาด , แพ้แล้วพาล
ความฝัน : อยากทำให้โลกกลายเป็นดาวที่มีแต่เสียงดนตรี

มนุษย์ต่างดาวที่ซึ่งเป็นตัวจริงของ เมจิคัล พิงกี้ และ ยามาโมโตะ พิงค์ เธอเป็นหัวหน้าของบุคโจ มีนิสัยหยิ่งผยอง หลังจากที่บุคโจพ่ายแพ้และโดนวิโอเล็ตเก็บไป เธอถูกเพ่งเล็งจากวิโอเล็ตที่เป็นคนสนิทของโอบอสมากยิ่งขึ้น ความสามารถของเธอก็คือ สามารถควบคุมเส้นผมของเธอ ให้บีบรัดคอศัตรูให้ถึงตายได้ เคยบุกเดี่ยวไปขดมยเอาไดเรคเตอร์ของเซย์จิ ที่เซย์จิเผลอทำตกไว้ที่โรงเรียนได้ครั้งหนึ่ง แต่ความหวังที่จะทำให้ดาการ์นฝั่งคำสั่งเธอ กลับไม่เป็นผล จึงเขวี้ยงไดเรคเตอร์ทิ้งไป จัดว่าเป็นสาวต่างดาวที่ขี้วีนคนหนึ่ง เมื่อไม่พอใจอะไร มักชอบใช้แส้ทำร้ายลูกน้องเสมอ ปกติเวลาเลิกเรียนหรือ ไม่ได้แสดงละครสัวต์ เธอจะกลับคืนร่างนี้ และนั่งสั่งการอยู่ในห้องบัญชาการที่มีลักษณะเหมือนวิหารของกรีกโบราณ และแน่นอน ลุกน้องของเธอ ซึ่งมีกายเป็นมนุษย์ และอวัยวะภายใน เป็นเครื่องจักรทั้งหมด ก็ใส่ชุดแต่งกายเหมือนกับ ชาวกรีกโบราณเช่นกัน

เลดี้พิงกี้ เมื่อพ่ายแพ้ให้กับเกรดดาการ์น GX เธอถูกวิโอเล็ตใช้พลังทำให้เธอกลายเป็นเด็ก เป็นการลงโทษ

ความลับอีกอย่างหนึ่งก็คือ จริงๆแล้วเลดี้พิงกี้ อายุมากกว่าที่เห็นจากหน้าตา หรือผิวพรรณ แต่เพราะพลังของโอบอส ได้รักษาความเยาว์วัยของเธอไว้ แต่ภายหลัง เธอพยายามแก้ไขความผิด ด้วยการบุกเดี่ยวไปสู้กับดาการ์น แต่กลับพลาดท่า ถุก ชิอัน เล่นงานจนบาดเจ็บสาหัส ด้วยเหตุการณ์นี้วิโอเล็ตเริ่มรู้สึกเห็นใจ และเริ่มโกรธแค้นโอบอสที่ทำกับเธอเกินกว่าเหตุ จึงแปรพักตร์ไปร่วมมือกับดาการ์น และช่วยให้เธอกลับคืนสู่ความเยาว์วัยได้อีกครั้งหนึ่ง

Posted Image
Posted Image

ลูกสมุนของเลดี้พิงกี้ (พากษ์โดย Takehito Koyasu) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
เป็นเหล่าไซบอร์กหนุ่มผิวพรรณดี หน้าตาดี เป็นลูกสมุนของเลดี้ พิงกี้ มีหลายคน บางคนก็ผิวคล้ำ ผมยาว บางคนก็หน้าตาผิวพรรรขาว ผมสีบลอนด์ จัดว่าเป้นลูกสมุนที่ดี วิเคราะห์การต่อสู้ได้เก่ง ที่ศีรษะของแต่ละคน มีช่องบรรจุดิสก์ ที่สามารถอ่านข้อมูลต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าของพวกเขา ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องแต่งกายสไตล์ชาวกรีกโบราณ
นอกจากจะเป็นลูกสมุนแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น ที่ระบายอารมณ์โกรธของเลดี้ พิงกี้อีกด้วย เพราะเมื่อไหร่ที่แผนการของพิงกี้ไม่สำเร็จ เธอจะระบายอารมณ์ด้วยการใช้แส้ฟาดใส่พวกหนุ่มๆไซบอร์กพวกนี้จนน่วมเลยที เดียว

Posted Image
VIOLETCHE (พากษ์โดย Kiyoyuki Yasada) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : ไม่แน่นอน
งานอดิเรก : เก็บสะสมไวน์
ความสามารถพิเศษ : จับเท็จคนอื่นได้เก่ง
สิ่งที่ชอบ : คนที่โง่กว่าตัวเอง
สิ่งที่เกลียด : คนป่าเถื่อน
บุคคลที่ชื่นชม : โอบอส
นิสัย : ชอบพูดคนเดียว
ความฝัน : สืบทอดตำแหน่งของโอบอส

ทหารชั้นสูง เป็นคนสนิทของโอบอส รูปร่างสูงโปร่ง จมูกแหลมยาว เป็นคนที่ดัดแปลงเรดลอนให้กลายเป็นไซบอร์ก และแบ่งร่างบุคโจเป็น 8 คน เขาสามารถแปลงร่างเป็นร่างหมาป่าสีม่วงเวลาโกรธจัด หรือร่างแมวสีม่วงได้ ชอบดื่มไวน์ ตอนแรกๆชอบพูดสำเนียงคล้ายๆพวกเกย์ หน้าที่ของเขาคือ ออกมาค้นหาจุดยุทธศาสตร์และ ค้นหา “พลังแห่งดวงดาว” โดยตรง แอบชอบ เลดี้พิงกี้อยู่ลึกๆ แต่ไม่เคยบอก มีความจงรักภักดีต่อโอบอสอย่างเต็มหัวใจ

แต่เมื่อได้เห็นนิสัยที่แท้จริงของโอบอส ทำให้เขาหมดศรัทธาในตัวโอบอส และได้หันร่วมมือกับพวกดาการ์น และช่วยให้พิงกี้ กลับคืนสู่ความเยาว์วัยได้อีกครั้ง แต่ตัวเขาเองก็ต้องบาดเจ็บ เพราะต้องทนรับพลังของโอบอสที่หมายจะฆ่าเขาอย่างจัง จนกลับคืนร่างเป็นแมวไป แต่สดท้าย พิงกี้ก็ช่วยเขา และพาขึ้นยานเล็ก หนีออกไปจากดาวโอบอสได้ในที่สุด


Posted Image
ชิอัน (พากษ์โดย Shigezou Sasaoka) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร

รองหัวหน้าของพวกโอบอส รับคำสั่งจากโอบอส ให้ไปพาดาการ์นมาที่ดาวโอบอส มีพลังทำลายที่สูง ในอดีตมันเคยเป็นแมทัพถล่มดาวบ้านเกิดของยันจาจนย่อยยับ ปกติช่วงแรก มันจะปรากฏกายในรูปร่างของยานทรงวงรีสีดำขนาดใหญ่ สามารถปลดปล่อยพลังงานสายฟ้าออกไปโจมตีศัตรูได้ (แต่อนุภาพของมันมีระดับเทียบเท่า ปืนสั้นดาการ์นแม็กนั่ม 1 นัดเท่านั้น) แต่ในตอนที่ 45 มันก็เผยร่างจริงของมันออกมา ก็คือร่างมังกรยักษ์สีดำ ร่างกายของมันแข็งแกร่งในระดับที่ว่า สามารถทนการโจมตีของ GX บัสเตอร์ที่ยิงเต็มแรงได้ชนิดที่ว่า ไม่เห็นแม้แต่รอยขีดข่วน แต่ภายหลัง มันก็จบชีวิตเมื่อ เกรทดาการ์น GX ได้รับพลังจาก “พลังแห่งดวงดาว” ไป

Main Mechanics


Posted Image

เหล่าหุ่นผู้กล้าในซีรี่ย์นี้ ไม่ได้มาจากสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกมาสิงยานพาหนะ แต่เดิมนั้น พวกเขาคือผู้กล้าที่เคยต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากการรุกรานของพวกต่างดาวมา แล้วครั้งหนึ่งในยุคก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อ 4 พัน 5 ร้อยล้านปีก่อน ซึ่งพวกเขาทั้ง 8 คน จะฟังคำสั่งจากผู้ที่ถูกเลือกโดย โอลิน โดยดวงวิญญาณของพวกเขานั้น อยู่ในรูปของ “หินแห่งผู้กล้า” และหลังจากที่เสร็จสิ้นจากภารกิจในอดีต พวกเขาก็กลับไปจำศีลโดย คืนสภาพตัวเองสู่ร่างของ ”ก้อนหินแห่งผู้กล้า” และกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆของโลก เพื่อรอเวลาที่อาจจะมีพวกต่างดาวมาโจมตีโลกอีกครั้ง พวกเขาถึงจะตื่นขึ้นมา


โดยเหล่าผู้กล้านี้ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ผู้นำหลักก็คือ ดาการ์น ผู้นำแห่งท้องฟ้าคือ กลุ่มเซเบอร์ และสุดท้าย ผู้นำแห่งแผ่นดิน คือกลุ่ม แลนเดอร์ส

Posted Image
Posted Image

DA-GARN (พากษ์โดย Sho Hayami) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร[/b]
ส่วนสูง : 10 เมตร
น้ำหนัก : 13.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 150.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 60.2 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 125000 แรงม้า
อาวุธ : ดาการ์นแม็กนั่ม (ปืนสั้นที่เก็บไว้ที่ต้นขาขวา เมื่อกระสุนหมด สัญลักษณ์ดาว 6 แฉกที่กระบอกปืนจะกระพริบ) ,
ดาการ์นนาปาม (ขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากร่องหน้าอกข้างขวา โดยยิงออกมาครั้งละหลายลูก)
ดาการ์นเฟลม (เปลวเพลิงที่ยิงออกมาจากช่องลมที่แขนทั้งสองข้าง)
ดาการ์นบ็อมเบอร์ (เป็นการขว้างล้อรถที่ต้นแขน ออกไปใส่ศัตรู)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของรถตำรวจตัวถังสีขาว รุ่น Lamborghini Diablo แม้ว่าจะอยู่ในร่างรถ แต่บางครั้ง ดาการ์นสามารถกางแขนออกมา และวิ่งกวาดศัตรูได้
ความยาว : 5.2 เมตร
ความเร็วสูงสุด : 400 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ผู้กล้าคนแรกที่ตื่นขึ้นมา มีกายเป็นสีน้ำเงิน มีสัญลักษณ์ที่เด่นชัดคือ ดาว 6 แฉกที่หน้าอกซ้าย ซึ่งเป็นทางเข้าออกห้องบังคับการของเซย์จิ ในช่วงก่อนการฟื้นคืนชีพ จะอยู่ในรูปของ ก้อนหินผู้กล้า ที่ฝังอยู่ที่หน้าผากของพระพุทธรูปในวัดเก่าแก่หลังโรงเรียนของเซย์จิ แปลงร่างมาจาก รถตำรวจที่มีตัวถังสีขาว รุ่น Lamborghini Diablo ของเนโมโตะนั่นเอง
ปกติเวลาไม่ได้ออกปฏิบัติการ จะจอดอยู่ที่ข้างป้อมตำรวจของเนโมโตะ ซึ่งเซย์จิชอบแอบมานั่งคุยด้วยเป็นประจำ มีคนที่จริงจังกับงานมาก ฝั่งคำสั่งของเซย์จิอย่างเคร่งครัด จัดว่าเป็นหุ่นที่เซย์จิมีความผูกพันด้วยมากที่สุด มีความฉลาด กล้าหาญ ในการที่จะเดินทางข้ามทวีปไกลๆ ดาการ์นมักจะอาศัยการเดินทางโดย จัมโบ้เซเบอร์ ไม่ก็ ชัตเติ้ลเซเบอร์เป็นประจำ ยามรวมร่างกับ เป็นดาการ์น X จะกลายเป็นส่วนท้อง

Posted Image


EARTH FIGHTER

ความยาว : 25 เมตร
น้ำหนัก : 19.2 ตัน
ความเร็วในการบินสูงสุด : 3.5 มัค
เครื่องบินรบความเร็งสูงของดาการ์น แต่เดิมนั้นเอิร์ธไฟเตอร์ เป็นเครื่องบินรบของกองกำลังป้องกันโลก ที่ทันสมัยที่สุด แต่ในตอนที่ 2 มันถูกยิงจนตกลงมากระแทกพื้น ดาการ์นที่กำลังจะเสียท่าจึงได้ส่งพลังไปให้เอิร์ธไฟเตอร์ ทำให้มันกลายเป็น เครื่องบินรบที่สามารถบินได้ด้วยความคิดของตัวเอง มีปืนเลเซอร์ 4 กระบอก ติดตั้งไว้ สามารถเป็นพาหนะให้ดาการ์นเดินทางข้ามทวีปได้ ยามที่รวมร่างกับดาการ์น จะกลายเป็นส่วนลำตัวท่อนบน , แขน และส่วนหัว

Posted Image

EARTH LINER
ความยาว : 44 เมตร
น้ำหนัก : 33.6 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 650 กิโลเมตร / ชั่วโมง
รถไฟชินคันเซ็นรุ่น 300 ชนิดประกอบหัวขบวนและท้ายขบวนเข้าด้วยกัน ตอนแรกเป็นรถด่วนที่โดนลูกหลงจากการโจมตีของหุ่นเรดลอน แต่ดาการ์นก็ได้ส่งมอบพลังให้หัวและท้ายขบวนของชินคันเซ็นขบวนนี้ ประกอบเข้าด้วยกัน จนกลายเป็น “เอิร์ธไลเนอร์” สุดยอดรถด่วนที่สามารถวิ่งได้เอง วิ่งเหนือผิวน้ำด้วยความเร็วสูงสุดได้ สามารถใช้ตัวเอง พุ่งเข้าชยกับศัตรูได้อีกด้วย เมื่อประกอบร่างกับดาการ์น จะกลายเป็นส่วนเอว และขาทั้งสองข้าง

Posted Image

DA-GARN JET
ความยาว : 49.5 เมตร
น้ำหนัก : 66.3 ตัน
ความเร็วในการบินสูงสุด : 4.5 มัค
เป็นร่างรวมร่างระหว่าง เอิร์ธไฟเตอร์ กับ เอิร์ธไลเนอร์ เน้นใช้ในการเดินทางที่มีระยะทางค่อนข้างไกล สามารถบรรทุกดาการ์นในร่างรถได้เช่นกัน มีความเร็วในการบินเหนือกว่าเอิร์ธไฟเตอร์ สำหรับเซย์จินั้น ดาการ์นเจ็ทเหมือนเสมือนเครื่องบินส่วนตัวเลยด้วยซ้ำ

Posted Image

DA-GARN X (พากษ์โดย Sho Hayami) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 22.5 เมตร
น้ำหนัก : 66.3 ตัน
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 250.8 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 405000 แรงม้า
อาวุธ : ดาการ์นเบลด (ดาบที่เก็บไว้ที่สะโพกซ้าย เป็นอาวุธหลักของดาการ์น X ที่กลางดาบ มีสัญลักษณ์รูปโลกอยู่ สามารถฟันศัตรูให้ขาดเป็นสองท่อนได้ในพริบตา) ,
เอิร์ธวัลคัน (ปืนวัลคันที่เกิดจากการที่ดาการ์น X เก็บข้อมือเข้าไปในแขน และยืดกระบอกปืนออกมาแทน สามารถใช้ยิงได้ทั้งมือซ้ายและขวา)
เอิร์ธแคนนอน (ปืนใหญ่ชนิด 2 ลำกล้องของดาการ์น ปกติจะแยกส่วนติดไว้ที่ข้างขาทั้งสองข้าง และเมื่อจะใช้ มันจะถูกถอดออกมาและนำมาประกอบซีกซ้ายขวาเข้าด้วยกัน มีพลังในการทำลายสูงมาก บางครั้งก็สามารถยิงได้ในขณะที่ยังเชื่อมติดกับข้างขาอยู่)
เอิร์ธกราเซอร์ (ลำแสงที่ยิงออกไปจากช่องลมที่แขนทั้งสองข้าง)

ท่าไม้ตาย
เบรซเอิร์ธบัสเตอร์ (เป็นการปลดปล่อยพลังทำลายล้างสูงสุดของดาการ์น X ซึ่งเป็นการยิงพลังพลาสม่าออกมาจาก ส่วนสัญลักษณ์รูปโลกที่หน้าอกเต็มแรง ซึ่งเป็นความร้อนสูงถึง 100000 องศา สามารถทำลายศัตรูให้แหลกเหลวไม่เหลือแม้แต่เศษซาก แต่ว่าเมื่อใช้เสร็จ ดาการ์น X ก็จะหมดพลังทันที ท่านี้ถูกใช้ครั้งแรกในครั้งที่ดาการ์น X สู้กับหุ่น อีเบนบรอยด์ ของเรดลอนในตอนที่ 7)
เบรซเอิร์ธแฟลช (เป็นการปล่อยพลังงานแสงแบบ ปล่อยให้กระจายออกหลายทิศทางเพื่อทำลายศัตรูในวงกว้าง หากมีหลายตัวหรือปล่อยไปในทิศทางเดียวกันก็ได้เพื่อทำลายศัตรูที่มีอยู่ตัว เดียว การใช้ท่าไม้ตายนี้ จะประหยัดพลังงานได้มากกว่า เบรซเอิร์ธบัสเตอร์)
เบรซบลิซซิ่งแอทแทค (การใช้พลังงานแช่แข็งศัตรู)
เอิร์ธเลเซอร์ (เป็นการยิงลำแสงจากปีกเล็ก 2 ข้างที่อยู่ที่หน้าอกของดาการ์น X)

ปรากฏตัวในตอนที่ 2 เป็นหุ่นยักษ์ที่เกิดจากการประกอบร่างกันระหว่าง ดาการ์น – เอิร์ธไฟเตอร์ – เอิร์ธไลเนอร์ มีความคล่องแคล่วในการต่อสู้ทั้งกลางอากาศ และบนพื้น สามารถบินได้ มีสัญลักษณ์รูปดาวโลกอยู่ที่หน้าอก ในตอนที่ 10 ดาการ์นเอ็กซ์ ได้ใช้ท่าไม้ตายร่วมกับ สกายเซเบอร์ และ แลนด์ไบซัน ทำลายยานแม่ “เรดโลน” ของเรดลอนได้สำเร็จ

Posted Image
กลุ่มเซเบอร์
เป็นหุ่นผู้กล้าอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ตื่นขึ้นมาต่อจากดาการ์น กลุ่มเซเบอร์มักจะเรียกเซย์จิว่า “กัปตัน” ซึ่งเปรียบเสมือนนักบินของเครื่องบิน ซึ่งแน่นอน ร่างยานพาหนะของพวกเขาก็คือเครื่องบินนั่นเอง กลุ่มเซเบอร์จัดว่าเป็นกลุ่มหุ่นผู้กล้าที่มีนิสัยสุภาพ ต่างจากกลุ่มแลนเดอร์สที่มีนิสัยกระด้างและเลือดร้อน แต่พวกเขาเคยเสียท่าให้กับเซเว่นเชนจ์เจอร์จนร่างกายเสียหายอย่างหนักมาแล้ว ครั้งหนึ่ง

Posted Image
Posted Image

JAMBO SABER (พากษ์โดย Mitsuaki Hoshino) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 12.5 เมตร
น้ำหนัก : 42 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 160 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 280.8 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 112000 แรงม้า

อาวุธ : จัมโบ้แอร์โรว์ (หน้าไม้สีขาวที่สามารถยิงศรออกไปครั้งเดียวได้ถึง 3 ดอก เก็บไว้ที่ส่วนหลังของจัมโบ้เซเบอร์ สามารถนำปากกระบอกยิงเชือก ที่เก็บไว้ที่ใต้หัวไหล่ขวามาประกอบเข้าตัวหน้าไม้ สามารถยิงลูกศรติดเชือกได้)
จัมโบ้ทอร์นาโด (เป็นการเก็บข้อมือทั้งสองข้างเข้าไปในแขน แล้วปล่อยพลังลมทอร์นาโดออกมาพัดพาศัตรูให้กระเด็นไปไกลได้)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของเครื่องบินโบอิ้งสีขาวขนาดใหญ่ สามารถบรรทุกดาการ์นในร่างรถได้อีกด้วย บางครั้งเซย์จิก็ใช้จัมโบ้เซเบอร์เป็นเครื่องบินส่วนตัวเหมือนกัน
ความยาว : 58.6 เมตร
ความเร็วในการบินสูงสุด : 3.2 มัค
อาวุธในร่างยานพาหนะ : จัมโบ้วัลคัน (ปืนกลขนาดเล็กที่ยิงมาจากส่วนหัวของตัวเครื่อง)
จัมโบ้ ลาเรียท (เป็นการประกอบส่วนแขน จากตัวเครื่องใบพัดที่ปีก ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูทางอากาศในร่างเครื่องบิน แต่สามารถใช้แขนจากร่างหุ่นยนต์ เข้าต่อสู้ได้)

ปรากฏตัวในตอนที่ 3 จัมโบ้เซเบอร์ คือหัวหน้ากลุ่มเซเบอร์ ที่ตื่นขึ้นมาทีหลังดาการ์น “หินแห่งผู้กล้า” ซึ่งเป็นวิญญาณของเขา ฝังอยู่ที่ โลงศพมัมมี่ที่ขนส่งมาทางเครื่องบินโบอิ้งจากประเทศ อียิปต์ แปลงร่างมาจากเครื่องบินโบอิ้ง ที่หน้าอกของเขามีสัญลักษณ์เป็นรูปเครื่องบินโบอิ้ง ซึ่งนั่นเป็นทางเข้าออกของห้องบังคับการให้เซย์จิเข้าไปออกคำสั่งได้ จัมโบ้เซเบอร์ จัดว่าเป็นหุ่นที่มีนิสัยสุภาพมาก และสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างดีเยี่ยม เวลาประกอบร่างกับเซเบอร์คนอื่น จะกลายเป็นส่วนกลางลำตัวและต้นขาของ สกายเซเบอร์

Posted Image
Posted Image

JET SABER (พากษ์โดย Shunsuke Takamiya) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 10.2 เมตร
น้ำหนัก : 18.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 180.6 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการกระโดด :390.6 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 103000 แรงม้า

อาวุธ : เจ็ทเบลด (ดาบยาวของเจ็ทเซเบอร์ สามารถฟันศัตรูให้ขาดเป็นสองท่อนได้)
เจ็ทดิสโพสซอล (เป็นการปล่อยคลื่นความถี่สูงจากปลายข้อมือทั้งสองข้าง ออกไปจัดการศัตรู)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของเครื่องบินเจ็ทสีน้ำเงิน ซึ่งเรดลอนขโมยมาเก็บไว้ที่ฐานในหน้าผาที่ขั้วโลกใต้
ความยาว : 18.6 เมตร
ความเร็วในการบินสูงสุด : 5.0 มัค

ผู้กล้าคนที่สองของกลุ่มเซเบอร์ ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่ 4 แปลงร่างมาจากเครื่องบินรบ หินแห่งผู้กล้า ซึ่งเป็นดวงวิญญาณของเจ็ทเซเบอร์ ถูกฝังอยู่ในก้อนน้ำแข็งใต้ดินของทวีปแอนตาร์กติก เซย์จิได้รับการช่วยเหลือจาก มารกี้ สมาชิกทีมสำรวจแหล่งแร่ใต้ธารน้ำแข็ง พาไปพบ สามารถปฏิบัติการโจมตีเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อประกอบร่างกับเซเบอร์คนอื่น จะกลายเป็นส่วนหน้าอก แขนซ้ายขวา และส่วนหัวของสกายเซเบอร์ ที่หน้าอกของเขาติดรูปเครื่องบินเจ็ทอยู่

Posted Image
Posted Image
SHUTTLE SABER (พากษ์โดย Ikuya Sawaki) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 10.3 เมตร
น้ำหนัก : 32.9 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 180.6 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 305.5 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 145000 แรงม้า

อาวุธ : ชัตเติ้ลแลนเซอร์ (ลูกดอกขนาดเล็กที่ยิงจากท่อลมที่แขนทั้งสองข้าง)
ชัตเติ้ลบูมเมอแรง (บูมเมอแรงที่มีความคมสูง ซึ่งเกิดจากการที่ชัตเติ้ลเซเบอร์ ถอดเอาปีกของเขาออกมาจากหลัง แล้วขว้างใส่ศัตรู)
ชัตเติ้ลแฟลชเชอร์ (ปืนกลที่ยิงมาจากท่อลมที่แขนทั้งสองข้าง)
ชัตเติ้ลบลาสต์ (ปืนยิงเปลวไฟที่ ตั้งตั้งอยู่ที่ปลายไหล่ด้านบนทั้งสองข้าง)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของกระสวยอวกาศที่เรดลอน ขโมยมาจากดวงจันทร์ สามารถบรรทุกดาการ์นในร่างรถได้อีกด้วย
ความยาว : 36.2 เมตร
ความเร็วในการบินสูงสุด : 305.5 มัค

ออกโรงในตอนที่ 4 เซเบอร์คนที่ 3 ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับเจ็ทเซเบอร์ หินแห่งผู้กล้าของเขา ถูกพบในกระสวยอวกาศที่มาจากดวงจันทร์ เรดลอนได้โจมตีและยึดกระสวยอวกาศลำนี้ไปเก็บไว้เป็นของสะสม ในเวลาปกติ ชัตเติ้ลเซเบอร์ จะลอยอยู่นอกชั้นบรรยากาศของโลก เมื่อเซย์จิเรียก เขาถึงจะทิ้งตัวลงมายังโลก บางครั้ง เขาก็เป็นยานบินให้ กาออร์นใช้เพื่อต่อสู้ทางอากาศ เวลาประกอบร่างเป็นสกายเซเบอร์ เขาจะกลายเป็นส่วนขาทั้งสองข้าง สัญลักษณ์ที่หน้าอกของเขาคือ รูปกระสวยอวกาศ

Posted Image

SKY SABER SABER (พากษ์โดย Shunsuke Takamiya) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 23.2 เมตร
น้ำหนัก : 93.4 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 280.5 กิโลเมตร / ชั่วโมง
พลังในการกระโดด :1030 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 385000 แรงม้า

อาวุธ : เซเบอร์วิงก์คัตเตอร์ (เป็นการใช้ปีกทั้งสองข้าง ที่กางขึ้น และบินพุ่งเข้าศัตรูและใช้สันปีกที่คมกริบดุจใบมีด ฟันศัตรูจนขาดเ)นสองท่อน)
เซเบอร์แด็กเกอร์ (เป็นการใช้มีดจากมือฟันศัตรู * หมายเหตุ ในซีรี่ย์ สกายเซเบอร์ไม่ได้ใช้อาวุธชิ้นนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว)
มิซไซล์ (เป็นการยิงจรวดมิซไซล์จากขาทั้งสองข้าง)
เซเบอร์บูมเมอแรง (สกายเซเบอร์ สามารถถอดเอาบูมเมอแรงที่มีสัญลักษณ์รูปม้ายูนิคอร์นที่หน้าอก เขวี้ยงใส่ศัตรูได้)

ท่าไม้ตาย : เซเบอร์บลิซซาร์ด (ที่ใบพัดบนส่วนหัวของสกายเซเบอร์ สามารถเร่งพลังงานแล้วพัดกระแสลมออกไปเป็นพายุน้ำแข็งได้)
ปรากฏตัวในตอนที่ 8 ผู้กล้าคนนี้ เกิดจากการประกอบร่างกันระหว่าง จัมโบ้เซเบอร์ – เจ็ทเซเบอร์ – ชัตเติ้ลเซเบอร์ สามารถต่อสู้กลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในตอนที่ 17 เขาได้เสียทีให้กับเซเว่นเชนจ์เจอร์ ทำให้เขาถูกแถงเข้าที่ส่วนท้องและสิ้นพลังในทันที แต่หลังจากที่โฮตารุนำทางเซย์จิไปจนถึงถ้ำแห่งแสงสว่าง หินแห่งผู้กล้าของเซเบอร์ทั้งสามคน ที่ลอยออกมาจากร่างที่เสียหายของสกายเซเบอร์และแตกร้าวนั้น ก็ได้กลับคืนสู่สภาพเดิม และกลับเข้าไปอยู่ในร่างของสกายเซเบอร์อีกครั้ง ทำให้เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมา


Posted Image
กลุ่มแลนเดอร์ส
เป็นผู้กล้ากลุ่มที่มีบอดี้แข็งแกร่งที่สุดในหมู่หุ่นผู้กล้าจากซีรี่ย์นี้ สมาชิกในกลุ่มทั้ง 4 คน แปลงร่างมาจากรถ 4 ชนิด มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลัง แต่มีข้อด้อยคือพวกเขาทั้ง 4 บินไม่ได้ ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะทำการสู้รบกลางอากาศได้ แต่ถ้าเป็นในอวกาศ หากพวกเขาสามารถบินออกไปบนชั้นบรรยากาศของโลกได้แล้ว โดยอาศัยความสามารถในการบินของดาการ์น X กับสกายเซเบอร์ พวกเขาก็สามารถลอยอยู่ในอวกาศได้ สมาชิกของกลุ่มแลนเดอร์ส ประกอบไปด้วย

Posted Image
Posted Image

BIG LANDERS (พากษ์โดย Satoshi Shimada) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 12.1 เมตร
น้ำหนัก : 45 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 150 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 54.5 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 165000 แรงม้า

อาวุธ : บิ๊กแม็กนีตรอน
บิ๊กคลัสเตอร์
บิ๊กสติงเกอร์ (เป็นการยิงมิสไซล์จากหน้าอกที่เป็นส่วนหัวรถบรรทุก)
สไปค์ชู๊ต (เป็นการถอดเอาล้อหน้าทั้งสองข้าง แล้วกางหนามออกมา แล้วเขวี้ยงใส่ศัตรู ลักษณะคล้าย ดาการ์นบ็อมบ์เบอร์ของดาการ์น)
เครื่องฉีดน้ำดับไฟที่ส่วนหน้าอก (หัวรถบรรทุก)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของรถบรรทุก พ่วงคอนเทนเนอร์สำหรับบรรทุกรถ แน่นอนว่าสามารถบรรทุกแลนเดอร์สคนอื่นๆได้ด้วย
ความยาว : 8.5 เมตร
ความยาวเมื่อพ่วงคอนเทนเนอร์ : 22 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 280.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อาวุธ : สามารถกางแขนในร่างหุ่น ออกมาชกศัตรูได้ ในขณะอยู่ในร่างรถ
ปรากฏตัวในตอนที่ 5 เป็นหัวหน้ากลุ่มแลนเดอร์ส ในตอนที่ยังไม่ผนึกร่างกับรถบรรทุก หินแห่งผู้กล้าซึ่งเป็นดวงวิญญาณของเขา ฝังอยู่ใต้ดินในถ้ำโบราณที่เต็มไปด้วยซากไดโนเสาร์ ในประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้กล้ารูปร่างใหญ่ มีพละกำลังมากที่สุดในกลุ่ม ดูทรงอำนาจ แต่เขากลับเป็นคนที่ใช้ความคิดและมีสติ ไม่ใจร้อน น้ำเสียงไม่ค่อยเข้ากับรูปร่าง เรียกเซย์จิว่า “ผู้การ” ที่หัวไหล่ของเขาติดหมายเลข 1 เอาไว้ แสดงถึงความเป็นผู้นำของกลุ่ม เมื่อรวมร่างกับแลนเดอร์สคนอื่นๆ จะกลายเป็นส่วนขาและเอวของแลนด์ไบซัน


Posted Image
Posted Image

DRILL LANDERS (พากษ์โดย Naoki Makishima) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 9 เมตร
น้ำหนัก : 30.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 45.5 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 132000 แรงม้า

อาวุธ : ดริลแคนนอน (ปืนกลที่ยิงจากส่วนหัวไหล่ด้านบน)
เครื่องฉีดน้ำดับไฟที่ยิงออกมาจาก การเก็บข้อมือเข้าไปในแขนทั้งสองข้าง

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของ Drill Tank หรือรถขุดเจาะใต้ดิน ที่มีหัวสว่านขนาดใหญ่ 2 หัว สามารถดำดินได้
ความยาว : 8.1 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 76.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ปรากฏตัวในตอนที่ 5 ผู้กล้าที่ตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับ บิ๊กแลนเดอร์ส หินแห่งผู้กล้าของเขา หลับใหลอยู่ในถ้ำโบราณใต้ดินที่เดียวกันกับบิ๊กแลนเดอร์ส สามารถทำการลาดตระเวร สอดแนมศัตรูจากใต้ดินได้ ชำนาญเรื่องการขุดเจาะ เมื่อประกอบร่างเป็นแลนด์ไบซัน จะเป็นส่วนแขนทั้งซ้ายและขวา ติดสัญลักษณ์หมายเลข 4 ไว้ที่หัวไหล่


Posted Image
Posted Image
TURBO LANDERS (พากษ์โดย Kiyoyuki Tanada) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 10 เมตร
น้ำหนัก : 18.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 60.5 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 114000 แรงม้า

อาวุธ : เทอร์โบ ดิสชาร์จเจอร์
เทอร์โบลันเชอร์ (ปืนกลที่ยิงจากท่อไอเสีย ติดตั้งอยู่ที่ด้านข้างแขนทั้งสองข้าง)

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของ รถสปอร์ตสีแดง เดิมเป็นรถของ จูเลีย เฮนรี่ ลูกสาวของเศรษฐีตระกูลเก่าแก่ของประเทศอังกฤษซึ่งเซย์จิไปพบระหว่างค้นหาหิน แห่งผู้กล้า /2 ก้อนสุดท้าย (อ้างว่าไปหาหิน แต่ใจมันดันอยากได้รถแข่ง F-1 ที่อังกฤษ)
ความยาว : 4.7 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 610 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ปรากฏตัวในตอนที่ 6 ผู้กล้าแห่งความเร็ว มีวลีที่พูดติดปากเป็นประจำคือ “Bari Bari วิ่งเต็มสปีด!!” มักชอบแข่งความเร็วของ แมชเลนเดอร์ส มีนิสัยใจร้อน ก่อนหน้าที่จะฟื้น หินแห่งผู้กล้าของเขา ได้รับการเก็บรักษาอยู่ในแผ่นตราประจำตระกูลเฮนรี่ คู่กับหินแห่งผู้กล้าของ แมชแลนเดอร์ส ซึ่งตระกูลนี้ สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และเคารพนับถือผู้กล้าในตำนานที่เชื่อกันว่า ดวงวิญญาณของผู้กล้าคนดังกล่าว ยังอยู่ในหินที่ฝังอยู่ในตราแผ่นนั้น ซึ่งก็คือหินแห่งผู้กล้านั่นเอง ติดสัญลักษณ์หมายเลข 2 ไว้ที่แขน เมื่อประกอบร่างเป็นแลนด์ไบซัน จะกลายเป็ส่วนหน้าอกและส่วนหัว


Posted Image
Posted Image

MACH LANDERS (พากษ์โดย Yoshio Kawai) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 9.5 เมตร
น้ำหนัก : 15.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 305.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 70.2 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 112000 แรงม้า

อาวุธ : แมชไรเฟิล (ปืนยาวที่สามารถยิงเปลวความร้อนออกมาได้ถึง 100 ล้านองศา แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เห็นเขาใช้ในซีรี่ย์)
วิงค์คัตเตอร์ (มีดบินที่มีความคมสูง ที่แมชแลนเดอร์ส ขว้างออกไปพร้อมกัน 2 เล่ม)
แมชสตอร์ม (ปืนลำแสงที่ยิงออกมาจากหน้าอก)
การปล่อยกระแสลมพัดใส่ศัตรู หรือเพื่อใช้ดับไฟ ซึ่งเกิดจากการที่แมชแลนเดอร์ส เก็บข้อมือทั้งสองข้างเข้าไปในแขน

Vehicle Mode
อยู่ในร่างของ รถ F-1 สีเหลือง ซึ่งเรดลอนถูกใจ อยากได้เป็นของสะสมส่วนตัว เลยให้หุ่นของตน ไปถล่มสนามแข่ง F-1 ที่อังกฤษ
ความยาว : 4.3 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 610 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เป็นผู้กล้าความเร็วสูงอีกคนหนึ่ง ปรากฏตัวในตอนที่ 6 เนื่องด้วยความเร็วกินกันไม่ลงกับเทอร์โบแลนเดอร์ส ทำให้ทั้งสองคนนี้ ที่ตื่นมาพร้อมๆกัน มักจะคอยชิงดีชิงเด่นกันเรื่องความเร็วเสมอ แต่ต่างจากเทอร์โบแลนเดอร์ส ตรงที่ ใจเย็นกว่า ตอนที่เขาอยู่ในร่างของ หินแห่งผู้กล้า ก็ถูกเก็บไว้ในตราแห่งผู้กล้าของตระกุลเฮนรี่อันเดียวกับที่เทอร์โบแลน เดอร์ส หลับใหลอยู่ ติดสัญลักษณ์หมายเลข 3 ไว้ที่หน้าอก เมื่อประกอบร่างเป็นแลนด์ไบซัน จะกลายเป็นส่วนเอว

Posted Image

LAND BISON (พากษ์โดย Satoshi Shimada) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน
ส่วนสูง : 24 เมตร
น้ำหนัก : 109.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 250.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 190 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 552000 แรงม้า

อาวุธ : แลนด์แคนนอน (ปืนยาวที่สามารถยิงลำแสงพลังสูง ติดตั้งอยู่บ่าทั้งสองข้าง)
ไบซัน ชิลด์ (โล่ติดสัญลักษณ์หัวกระทิงขนาดใหญ่ ความสามารถของโล่อันนี้คือ สามารถสะท้อนการโจมตีของศัตรูกลับไปได้ (Reflector) ปกติจะเก็บไว้ที่ด้านบนของ คอนเทนเนอร์ของบิ๊กแลนเดอร์ส)
แลนด์คอนเวอร์เตอร์ (เป็นการยิงกระสุนปืนแสงออกจากส่วนหน้าอก)
แลนด์โบลวเวอร์ (เป็นเทคนิกเฉพาะตัวของแลนด์ไบซัน พวกเขาจะสามารถใต้เท้าของพวกเขา แล่นเหนือพื้นดินได้ด้วยระยะทางประมาณ 100 เมตร ความจริงพวกเขาสามารถใช้เทคนิกนี้ได้ แม้กระทั่งแยกร่างเป็นแลนเดอร์สทีมทั้ง 4 คน)
แลนด์พันช์ (หมัดจรวดนั่นเอง สามารถยิงออกไปพร้อมกันทั้ง 2 ข้างเลยก็ได้)
แลนด์คิก (ลูกเตะของแลนด์ไบซันที่สามารถถล่มภูเขาให้ถล่มได้ ด้วยแรงเตะที่หนักหน่วงถึง 20 ตัน)
แลนด์ครัชเชอร์ (เป็นการยิงหัวสว่านที่ติดอยู่ที่ไหล่ทั้งสองข้างไปโจมตีศัตรู)
ครัชแลนด์ (คล้ายกับการยิงแลนด์ครัชเชอร์ แต่ต่างตรงที่ สามารถยิงแขนทั้งท่อน ออกไปใส่ศัตรูได้ โดยหันปลายหัวสว่านพุ่งเข้าหาวศัตรู)
ปรากฏตัวในตอนที่ 9 ผู้กล้าแห่งพละกำลังคนนี้ เกิดจากการรวมร่างของแลนเดอร์ส 4 คนคือ บิ๊กแลนเดอร์ส – เทอร์โบแลนเดอร์ส – แมชแลนเดอร์ส – ดริลแลนเดอร์ส โดยมีสัญลักษณ์รูปวัวกระทิงติดอยู่ที่หน้าอก สมกับชื่อ จัดว่าเป็นหุ่นผู้กล้ารุ่นหนัก มีปืนยาวแลนด์แคนนอนติดตั้งอยู่ที่บ่าทั้งสองข้าง มีนิสัยใจร้อน แต่มีข้อด้อยคือไม่สามารถบินได้ หากไม่มีสกายเซเบอร์ หรือ ดาการ์น X คอยช่วย แลนด์ไบซันมีส่วนสำคัญในการที่สามารถช่วยให้ดาการ์น กับ เซเบอร์ ที่กำลังเจอปัญหา โดนเรดลอนเล่นงานด้วยปืนแสงต่อต้านการประกอบร่าง ทำให้พวกเขาไม่สามารถรวมตัวได้ และก็เป็นแลนด์ไบซันนี่เอง ที่แยกไปทำอีกภารกิจหนึ่ง และรวมร่างมาก่อนที่จะมาถึงที่ๆพวกดาการ์นกำลังสู้ และสามารถมทำลายเรดาห์และปืนยิงลำแสงต่อต้านการประกอบร่างได้สำเร็จ

ผู้กล้าคนใหม่จากยุคโบราณ
เรียกได้ว่า ผู้กล้าที่ตื่นขึ้นมาเพิ่มอีก 2 คนนี้ ไม่ได้รวมกลุ่มกับพวกดาการ์นในยุคเมื่อ 4 พัน 5 ร้อยล้านปีก่อน จะตื่นขึ้นเมื่อโลกมีภัยที่ร้ายแรงขึ้น และพวกผู้กล้ากลุ่มแรก (พวกดาการ์น) กำลังจนตรอก โดยพวกเขาจะแปลงร่างมาจากร่างสัตว์ ผู้กล้าคนใหม่ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งสามารถประกอบร่างกับ เซเบอร์ 3 คนได้ ส่วนอีกคนหนึ่ง สามารถประกอบร่างกับ ดาการ์น X ได้

Posted Image
Posted Image

HAWK SABER (พากษ์โดย Nobutoshi Hayashi) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 12.5 เมตร
น้ำหนัก : 29 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 290.3 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 450 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 112000 แรงม้า

อาวุธ : ฮอว์คแอนเชอร์ (เป็นการเหวี่ยงเพลตที่ติดอยู่ที่หัวไหล่ทั้งสองข้างไปโจตมตีศัตรู)
ฮอว์คดาร์ต (เป็นการยิงกระสุนจรวดออกจากหัวไหล่ทั้งสองข้าง)
ฮอว์ค เวอร์เท็กซ์
ฮอว์ค กิมเล็ต (ฮอว์คเซเบอร์จะหมุนตัว 360 องศาด้วยความเร็วสูงเปรียบเหมือนสว่าน พุ่งเข้าแทงทะลุร่างของศัตรูจนย่อยยับ)
Animal Mode
อยู่ในร่างของ เหยี่ยวขนาดยักษ์ เป็นผู้กล้าคนเดียวในกลุ่มเซเบอร์ที่มีร่างนอกจากร่างหุ่นเป็นร่างสัตว์
ความยาว : 8 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 4.5 มัค

ผู้กล้าคนใหม่ที่ตื่นขึ้นมาหลังจากสกายเซเบอร์บาดเจ็บสาหัส ไม่ได้หลับใหลอยู่ในรูปของหินแห่งผู้กล้าเหมือนพวกดาการ์น แต่เขาหลับใหลอยู่ในรูปั้นหินรูป นกขนาดใหญ่ที่อยู่ในถ้ำแห่งแสงสว่างในประเทศทิเบต ช่วงที่สกายเซเบอร์เสียหาย เขาแบ่งภาคตัวเองออกไปเป็นร่างของนกรูปร่างสวยงามตัวหนึ่ง บินไปหาเซย์จิเพื่อจะนำทางเขาไปยังถ้ำแห่งแสงสว่างเพื่อที่จะปลุกฮอว์คเซ เบอร์ขึ้นมา แต่เซย์จิที่กำลังเครียดเรื่องสกายเซเบอร์ เลยไมได้สนใจ แต่ก้เพราะคำชี้แนะของโฮตารุ ที่บอกให้ตามนกตัวนี้ไป เซย์จิจึงขับดาการ์นเจ็ทตามนกตัวดังกล่าวไปถึงถ้ำแห่งแสงสว่างในทิเบต แต่เมื่อมาถึง ร่างแบ่งภาคของฮอว์คเซเบอร์ หรือเจ้านกตัวนี้ก็กำลังจะตายเพราะบาดเจ็บจากการโจมตีของบุคโจ ระหว่างบินตามเซย์จิที่กลับไปญี่ปุ่นเพื่อไปรับโฮตารุ เซย์จิรู้สึกผิดที่ไม่ยอมทำตามที่นกตัวนี้บอก แต่ด้วยแรงจิตของเขาที่อยากให้นกตัวนี้ร้อนชีวิต รวมถึง แรงอธิษฐาณของนกตัวอื่นๆทั่วโลก ทำให้นกตัวนี้ บินกลับเข้าร่าง ที่เป็นรูปปั้นหิน และปรากฏร่างของฮอว์คเซเบอร์ออกมานั่นเอง

ฮอว์คเซเบอร์ เป็นผู้ที่รักท้องฟ้าดุจชีวิต ฉะนั้น ใครที่มาทำท้องฟ้าที่เขารัก กลายเป็นที่อันตราย เขาจะไม่ยอมยกโทษให้เด็ดขาด และฮอว์คเซเบอร์ สามารถประกอบร่างกับสกายเซเบอร์ กลายเป็น เปกาซัสเซเบอร์ได้อีกด้วย


Posted Image
PEGASUS SABER (พากษ์โดย Nobutoshi Hayashi) / เสียงไทยโดย มนูญ เรืองเชื้อเหมือน

ส่วนสูง : 25.5 เมตร
น้ำหนัก : 122.4 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 1200 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 650 เมตร
ความเร็วในการบิน : 23.5 มัค
พละกำลังสูงสุด : 580000 แรงม้า

อาวุธ : เซเบอร์แอร์โรว (คันธนูที่เป็นอาวุธหลักของเปกาซัสเซเบอร์ สามารถยิงศรออกไปทำลายศัตรู หรือจะคล้องเชือกแล้วยิงศรออกไปปักและลากศัตรูไปไว้ที่อื่นก็ได้)
เซเบอร์เทมเพสต์
เซเบอร์ ดิสเพอร์ส (ใช้ขาหน้าเตะศัตรูออกไป)
เบลอ สตาร์เซเบอร์ (เป็นการยิงหัวเหยี่ยวที่ติดอยู่ที่หน้าอก ออกไปจัดการศัตรู หรือสามารถใช้ในการทำภารกิจชิงตัวประกันก็ได้อีกด้วย)
เซเบอร์เลเซอร์ (เป็นการยิงลำแสงจาก ปีกที่หน้าอก ไปโจมตีศัตรู)
เป็นการประกอบร่างที่อัพเกรดร่างจาก สกายเซเบอร์ พละกำลังเพิ่มขึ้นเหนือกว่าสกายเซเบอร์หลายเท่า เป็นผู้กล้ารวมร่างที่มี 4 ขาคนแรกในประวัติศาสตร์ยูฉะซีรี่ย์ มีรูปร่างเหมือน มนุษย์ม้า (เซนทอร์) ส่วนหัวคล้ายกับนักรบอัศวินโรมัน จัดว่าเป็นผู้กล้าที่มีรูปร่างสง่างามคนหนึ่ง



Posted Image
Posted Image

GA-ORN (พากษ์โดย Sho Hayami) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 21 เมตร
น้ำหนัก : 58 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 200.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 350 เมตร
พละกำลังสูงสุด : 550000 แรงม้า

อาวุธ : กาออร์น โทมาฮอค (ขวานคู่ขนาดใหญ่ที่เก็บไว้ที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง เมื่อฟันใส่ศัตรูครั้งเดียว สามารถทำลายศัตรูให้ตายคาที่ได้ในพริบตา หรือสามารถเขวี้ยงออกไปใส่ศัตรูได้ด้วย)
คลอว์อาร์ม
บูมเมอแรง
มิสไซล์ที่หัวไหล่ 4 ลูก
จี-วัลคัน (ปืนกลที่เก็บไว้ที่ขาขวา สามารถยิงกระสุนได้ถึง 1000 นัดต่อนาที)
จี-แคนนอน (ปืนลำแสงพลาสม่า ที่เก็บไว้ที่ขาซ้าย สามารถยิงลำแสงพลาสม่าความร้อนถึง 100000 องศาออกไปได้)
GX-บัสเตอร์ (ปืนกระบอกนี้ เกิดจากการไอเดียของเซย์จิในการให้กาออร์น นำเอาอาวุธปืน จี-วัลคัน และ จี-แคนนอน มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มพลังในการโจมตีศัตรู และดันทำได้จริงเพราะความบังเอิญ แม้แต่กาออร์นก็ยังไม่รู้ว่า สามารถใช้วิธีนี้ได้ โดยเมื่อยิงออกไป ทำให้ร่างของกาออร์น ที่เล็กเกินกว่าจะทนรับแรงถีบของปืนใหญ่กระบอกนี้ ถึงกับกระเด็นเลยทีเดียว แต่มันก็สามารถสร้างความเสียหายให้กับยานแม่ของ เลดี้พิงกี้ได้ จนล่าถอยออกไป)


Animal Mode

อยู่ในร่างของสิงโตเหล็กขนาดใหญ่
ความยาว : 14.5 เมตร
ความเร็วในการวิ่งสูงสุด : 380 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อาวุธ : มิสไซล์ 4 ลูก
ออคูลาร์บีม

ผู้กล้าคนที่ 10 ที่ตื่นขึ้นมาจากแรงจิตอธิษฐานของเหล่าสัตว์ป่าในทวีปแอฟริกา ที่ไปรวมตัวกันที่ยอดเขาคิริมันจาโร ในตอนแรก เขาหลับใหลอยู่ในร่างของสิงโตเหล็ก แต่ก็ถูกแช่แข็งในรูปร่างของสิงโตน้ำแข็งขนาดใหญ่อีกทีหนึ่ง โดยผู้ที่มีส่วนปลุกเขาขึ้นมาก็คือ เซย์จินั่นเอง จากคำบอกเล่าของชาวป่าพื้นเมืองของแอฟริกาที่บอกเซย์จิ ขณะกำลังอพยพหนีเพราะ แอฟริกา ถูกวิโอเล็ตระเบิดจุดยุทธศาสตร์ จนผืนดินแยกออก ลาวาปะทุขึ้นมา ว่า ที่ภูเขาคิริมันจาโร มีเทพแห่งสิงโตหลับใหลอยู่ ถ้าหากว่า โลกกำลังมีภัย พวกเขาขจะไปกราบไหว้ที่นั่น เพื่อให้เทพสิงโตตื่นขึ้นมา และด้วยความที่เชื่อมั่นในสัญชาตญาณของสัตว์ ที่มุ่งหน้าที่คิริมันจาโรเหมือนกัน ซึ่งเซย์จิเชื่อมั่นในจุดนี้ เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับฮอว์คเซเบอร์มาแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงเชื่อมั่นว่า จะต้องมีผู้กล้าอีกคนหนึ่งหลับใหลอยู่ในเขาคิริมันจาโรแน่นอน

ในช่วงเวลาที่ดาการ์น X ทำการเชื่อมแผ่นดินแอฟริกาให้กลับมาติดกันเหมือนเดิม และชาร์จพลังตัวเองอยู่ใต้พื้นโลก เซย์จิที่กลับญี่ปุ่นตามคำแนะนำของสกายเซเบอร์ ได้กาออร์น มาทำหน้าที่แทนดาการ์นชั่วคราว โดยกาออร์น มักจะเรียกเซย์จิว่า “แม่ทัพ” ส่วนในยามปกตินั้น กาออร์นจะซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเล (คล้ายๆดราก้อนซีซาร์ในจูเรนเจอร์) โดยเวลาที่เขาชนะในการต่อสู้ เขาจะตะโกนชื่อตัวเองออกมา เพื่อประกาศศักดาทุกครั้ง

และกาออร์นนี่เอง ที่เป็นไกลจักรสำคัญในการที่ทำให้ดาการ์น X สามารถประกอบร่างกับกาออร์น เป็น “เกรทกาการ์น GX” ได้สำเร็จ


Posted Image
GREAT DA-GARN GX (พากษ์โดย Sho Hayami) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 27.2 เมตร (ไม่รวมป้อมยิงมิสไซล์ที่บ่า)
น้ำหนัก : 124.3 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 180.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 300 เมตร
ความเร็วในการบิน : 10.5 มัค
พละกำลังสูงสุด : 1200000 แรงม้า

อาวุธ : วัลคันกราวน์
ดาการ์นเบลด
เกรทบาริสต้า (เป็นการยิงมิสไซล์จากป้อมยิงที่ติดอยู่ที่บ่าทั้งสองข้าง)
เกรทบอมเบอร์ (เป็นการยิงคลื่นช็อคเวฟจากแขนทั้งสองข้างใส่ศัตรู)
จี-วัลคัน (ปืนกลที่เก็บไว้ที่ขาขวา สามารถยิงกระสุนได้ถึง 1000 นัดต่อนาที)
จี-แคนนอน (ปืนลำแสงพลาสม่า ที่เก็บไว้ที่ขาซ้าย สามารถยิงลำแสงพลาสม่าความร้อนถึง 100000 องศาออกไปได้)
GX-บัสเตอร์ (เป็นอาวุธไม้ตายหลักของ เกรทดาการ์น GX เรียกได้ว่า กาออร์นที่ไม่สามารถทนรับแรงถีบของปืนกระบอกนี้นั้น กลายเป็นเรื่องง่ายถ้าให้ เกรทดาการ์น GX ใช้ ด้วยน้ำหนักตัวและพละกำลังในการถือปืนของเขา สูงกว่ากาออร์น การใช้งานจึงสบายกว่าที่คาดไว้ ในการยิงเพียงแค่นัดเดียว สามารถยิงยานแม่ขนาดยักษ์ของศัตรูให้ระเบิดพินาศในพริบตา แต่มันกลับทำอะไร ชิอันไม่ได้ แต่ในตอนสุดท้าย เกรทดาการ์น GX ก็ใช้มันถล่มดาวโอบอสจนแหลก)
GX – บัสเตอร์ วัลคัน (โหมดวัลคันช็อทของ GX – บัสเตอร์ ที่เปลี่ยนปากกระบอกปืน มาใช้ จี-วัลคัน แทนแล้วใช้จี-แคนนอน ต่อเข้าที่ท้ายส่วนของจี-วัลคัน กลายเป็นปืนกลยักษ์ที่ไม่มีแรงถีบมากนัก แต่มันสามารถยิงรัวๆจนทำลายหุ่นของศัตรูให้แหลกเป็นชิ้นได้โดยง่าย)

สุดยอดหุ่นผู้กล้า ที่มีพลังมากที่สุด เกิดจากการรวมร่างของดาการ์น X และกาออร์น สามารถทนต่อการโจมตีของศัตรูได้ชนิดไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน เอกลักษณ์ที่เด่นชัดก็คือ หน้าอกสิงโต ในตอนสุดท้ายนั้น เกรทดดาการ์น GX ได้ไปลุยศึกสุดท้ายกับโอบอส โดยพลังแห่งดวงวิญญาณมาจากผู้กล้าคนอื่นๆ และจากเซเว่นเชนจ์เจอร์ที่ตายไป รวมทั้ง จากพลังแห่งดวงดาว และได้สู้กับโอบอสจนได้รับชัยชนะในที่สุด



Posted Image

DENSETSU DAGARN GX (พากษ์โดย Sho Hayami) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ร่างสุดยอดขั้นสุดท้ายของ เกรทดาการ์น GX ที่รวมเอาดวงวิญญาณของผู้กล้าอีก 8 คนที่ถอดวิญญาณออกจากร่าง ไปรวมพลังในร่างของเกรทดาการ์น GX ที่เสียหาย รวมถึงดวงวิญญาณของเซเว่นเชนจ์เจอร์ด้วย ทำให้สามารถทำลายชิอันลงได้ ลักษณะของร่างนี้คือ จะไม่มี เกรทบาริสต้า , จีเบิร์ด และส่วนเท้าล่างของเกรทดาการ์น GX ที่เสียหายไปก่อนหน้านี้ รวมถึงเฟสการ์ดที่แตกละเอียดไปแล้ว ส่วนบอดี้ทั่วร่าง จะเป็นสีทองอร่าม เพราะได้รับพลังแห่งดวงดาวเข้าไปด้วย และสุดยอดผู้กล้าคนนี้ ก็ได้มุ่งหน้าเข้าสู้กับโอบอสจนได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม



ผู้กล้าจากต่างดาว

Posted Image
SEVEN CHANGER (พากษ์โดย Takehito Koyasu) / เสียงไทยโดย ไกวัล วัฒนไกร
ส่วนสูง : 25.5 เมตร
น้ำหนัก : 75 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 250.5 เมตร
ความเร็วในการบิน : 10.5 มัค
พละกำลังสูงสุด :754000 แรงม้า
อาวุธ : ดับเบิ้ลเอดจ์สวอร์ด (ดาบปลายแหลมสองคมของเซเว่นเชนจ์เจอร์)
โซนี่เชนจ์เจอร์สตาร์ (เป็นการใช้สายพานที่อยู่แขนของเซเว่นเชนจ์เจอร์ เหสี่ยงออกไปแทงศัตรูด้วยความเร็วสูง ซึ่งสกายเซเบอร์เสียทีให้กับกระบวนท่านี้ของเซเว่นเชนจ์เจอร์)

Another Mode

Posted ImagePosted ImagePosted Image
เจ็ทฟอร์ม
ความยาว : 24.5 เมตร
ความเร็วในการบินสูงสุด : 26.5 มัค

กริฟฟอนฟอร์ม
ความยาว : 24.2 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง : 70.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง

แทงค์ฟอร์ม
ความยาว : 19 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง : 70.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง

จากัวร์ฟอร์ม
ความยาว : 23.3 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง : 450 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ซับมารีนฟอร์ม
ความยาว : 22.5 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง : 65 kt (120.38 กิโลเมตร/ชั่วโมง)

เทรลเลอร์ฟอร์ม
ความยาว : 23 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง : 280 กิโลเมตร / ชั่วโมง


ปรากฏตัวในตอนที่ 15 ผู้กล้าจากดาว Wilder สามารถแปลงร่างได้ถึง 7 รูปแบบ (หุ่นร่างมนุษย์ , เสือจากัวร์ , เครื่องบินเจ็ท , เรือดำน้ำ , รถเทรลเลอร์ , รถถัง , กริฟฟอน) ตอนแรกเป็นศัตรูกับพวกดาการ์น แต่จริงๆแล้วเป็นการเล่นละครตบตาให้โอบอสไว้ใจ เพราะ ยันจา รัชทายาทของดาว Wilder ที่สูญเสียดาวบ้านเกิดและครอบครัวไป เป็นคนที่ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา ได้สาบานว่าจะล้างแค้นโอบอส จึงลักลอบเข้าไปทำงานในองค์กรของโอบอส เพื่อจะสืบข้อมูลสำคัญของโอบอส แต่ภายหลังก็มาเข้าร่วมทีมกับดาการ์น จงรักภักดีต่อยันจายิ่งกว่าชีวิต มีความแข็งแกร่ง ปราดเปรียว และท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ยอมสละชีพดวลดาบกับ เรดไกสต์ของเรดลอน จนจบชีวิตอย่างสมเกียรติโดยฝากฝังให้เซย์จิ ช่วยดูแลยันจาแทนเขาต่อไป




หุ่นของฝ่ายโอบอส


Posted Image
RED GEIST
ส่วนสูง 27.5 เมตร
น้ำหนัก : 98.5 ตัน
ความเร็วในการวิ่ง : 280.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พลังในการกระโดด : 650.5 เมตร
ความเร็วในการบิน : 7.9 มัค
พละกำลังสูงสุด :1302000 แรงม้า
อาวุธ : ดาบ และปืนไรเฟิล

Dragon Mode
ส่วนสูง 22 เมตร
ความยาว : 35.8 เมตร
ความเร็วในการบิน : 20 มัค

Posted Image
Red Loan Mode
ความยาว : 170 เมตร
น้ำหนัก : 110000 ตัน
ความเร็วในการบิน : 5.5 มัค
พละกำลังสูงสุด : 6660000 แรงม้า
อาวุธ : บีมแคนนอน 3 กระบอก (อาวุธหลัก)
บีมแคนนอน 4 กระบอก (ปืนสำรอง)
เรดาร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของศัตรู
ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของ โอบอส ชิอัน และวิโอเล็ตโดยเฉพาะ เพราะมันเป็นการดัดแปลง และซ่อมแซมยาน เรดโลน ของเรดลอนที่โดนเหล่าผู้กล้า ทำลายจนย่อยยับ ให้กลายเป็น “ทริปเปิ้ลเชนจ์เจอร์” คือสามารถแปลงร่างเป็น ร่างหุ่นรูปทรงมนุษย์สีแดง “เรดไกสต์” , ร่างมังกร และร่างยานเรดโลนได้ เรดไกสต์ มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับเกรทดาการ์น GX มันมีโล่ขนาดใหญ่ที่สะท้อนมิสไซล์เกรทบาริสต้าของเกรทดาการ์น GX ได้อย่างสบาย แต่ภายหลัง ก็ได้ถูกทำลายไปพร้อมๆกับเซเว่นเชนจ์เจอร์



จุดยุทธศาสตร์ และพลังแห่งดวงดาว
จุดยุทธศาสตร์ของโลกที่โอบอสพยายามค้นหานั้น หากว่าสามารถจุดให้ปะทุขึ้นมาพร้อมกันได้นั้น โลกก็จะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับที่ดาวของยันจาเคยโดนมาแล้ว ซึ่งจุดยุทธศาสตร์บนโลกนั้น มีอยู่ 5 แห่ง ตามที่ต่างๆดังนี้
ทวีปแอฟริกา ประเทศเคนยา ใกล้กับภูเขาคิริมันจาโร แหล่งที่กาออร์นหลับใหลอยู่ และที่นี่ วิโอเล็ตสามารถทำให้ระเบิดได้จุดหนึ่ง แต่ดาการ์นก็ช่วยดึงแผ่นดินให้กลับมาติดกันเหมือนเดิม
ถ้ำแห่งแสงสว่าง ที่ประเทศทิเบต แหล่งที่ฮอว์คเซเบอร์เคยหลับใหลอยู่
อเมริกาใต้ ที่เขตป่าอเมซอน (จุดนี้จริงๆแล้ว บุคดจเป็นคนพบ)
ออสเตรเลีย ที่หน้าผาหินที่สูงที่สุดในโลก แอร์สร็อค
ญี่ปุ่น ในบริเวณวัดเก่าหลังโรงเรียนของเซย์จิ ซึ่งเป็นที่ๆดาการ์นเคยหลับใหลอยู่ เป็นจุดสุดท้าย

พลังแห่งดวงดาว ปกตินั้นตามที่ยันจาเคยบอกไว้ว่า ดวงดาวทุกดวงที่มีสิ่งมีชีวิต ล้วนแล้วแต่ มีพลังในตำนานแอบซ่อนเร้นอยู่ทั้งนั้น แต่มันจะปรากฏออกมาช่วยโลกได้นั้น มันต้องขึ้นอยู่กับ แรงอธิษฐานของ พืช สัตว์ มนุษย์ ทุกชีวิตในโลก คนที่รู้ถึงถ้อยคำในตำนานที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะปลุกพลังนี้ให้ระเบิดออกมา ช่วยได้นั้นก็คือโฮตารุนั่นเอง โดยถ้อยคำที่ว่านี้ แม่ของเซย์จิ ก็ได้ช่วยประกาศผ่านโทรทัศน์ไปทั่วโลก ดังนี้
“สรรพสิ่งที่ร่วมชะตากับดาว มีเจตจำนงเช่นเดียวกับดาว จงอธิษฐานร่วมกับดาว เอาประกายแสงมารวมกัน ส่องสว่าง เป็นหนทางใหม่”



OP & ED Lyric
Opening : Kaze no Mirai E
Artist : Arika Sato


kaze ga sora e mukau youni
boku mo itsuka tobitatsun da
dekiru sa shinjiteru yo

otona tachi ga naku shiteru
chikara wo ima torimodosou
kimi ni mo dekiru hazu sa

nee boku mo hitori ja sonna ni
tsuyoi wake ja nain da
dakedo kimi ga moshi ima sugu ni
chikara wo kashite kuretara

* We can fly!
kono hoshi wa boku tachi no daiji na fune sa
Say! DA GAAN
tachi agare hateshinai mirai no hikari e


boku no totemo taisetsu na
hito tachi e to kiken ga kuru
sono toki dou suru darou?

moshi mo nigete shimattara
boku wa kitto kuyamu darou
kowai yo hontou wa ne

demo yuuki wo furishibotte
boku wa tatakau darou
datte kimi no koto suki dakara
kimi wo naku shitakunai yo

We can fly!
KOBARUTO no hoshizora e tsubasa wo hiroge
Say! DA GAAN
mai agare hateshinai mirai no hikari e

* Repeat

Ending : Hareruya Papaiya
Artist : Arika Sato


Honto ha shukudai nante
Suki janai asobitai
Kujira no ousama wo
Hareta hi ha yobidasunda

Minami no sango shou made
Hitottobi parashuuto
Dekkai taiyou to yashi no mi no
Shima ni ikou

Mama kara osowatta
Ruuru ya manaa mo
A wa wa kiete
Atama janai haato no rakuen

*Ashita kitto hareruya
Dakara zutto makeruna
Sora mo umi mo papaiya
Boku ha kimi ga daisuki sa

Hadashi de janguru no naka
Suicchi wo hinettara
Kirin ya madonna ga
Te wotsunagi raindansu

Papa kara iwareta yo
[Benkyou shiro!] tte
Kyun to natta
Rikutsu janai haato ga kanjin

**Yume ha itsuka hareruya
Dakara minna awaseruna
Natsu mo fuyu mo papaiya
Boku ha kimi ga daisuki sa

*Repeat
**Repeat




สำหรับบทความ จะสมบูรณ์ไม่ได้เลย หากว่าผมไม่ได้ทำความรู้จักกับยูฉะซีรี่ย์นี้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมเองก็ดูอนิเมะที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหุ่นยนต์มาก็เยอะ แต่ก็ไม่เคยถูกใจ แต่เมื่อได้มีโอกาสได้ดูเรื่อง หุ่นเทพเจ้าดาการ์น แม้จะได้ดูม้วนที่ 6 ไม่ได้ดูตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า นี่แหละใช่เลย การ์ตูนแนวที่เราคิดได้ทันทีว่า “ใช่” สำหรับเรา ใช้เวลาอีก 6 ปีกว่าจะได้ดูจนจบเรื่อง มันยิ่งทำให้ผมซึมซับเข้าไปอีกว่า คุ้มแล้วแหละ ที่เฝ้ารอซีรี่ย์นี้มาตลอด แล้วท้ายที่สุดแล้ว ก็ขอขอบคุณ Sunrise ที่ผลิตงานดีๆชิ้นนี้ มาให้พวกเราได้ชมกัน …

0 Response to "[บทความ] Yuusha Series - Brave of the Legend DA-GARN"

Posting Komentar